วันพฤหัสบดีที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2568

พระเจดีย์วัดบ่อน้ำทิพย์ จ.เชียงใหม่

บราณสถานแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของเวียงกุมกาม ภายในพื้นที่มีวัดตั้งอยู่ด้วยคือ วัดบ่อน้ำทิพย์...

พบว่ามีวิหารหลังเล็ก ผมอยากรู้ว่ามีพระเจดีย์เหมือนกับวัดอื่นมั้ย? 


เดินลงไปถามท่านสิงห์ผู้พิทักษ์ดูหน่อย...
 
 
 
นั่นไง...พระธาตุเจดีย์วัดบ่อน้ำทิพย์! 




 
พระเจดีย์องค์เล็ก สูง 8.56 เมตร กว้าง 3.38 เมตร...ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 3 แสนกว่าบาท!

วิหารวัดบ่อน้ำทิพย์ จ.เชียงใหม่

 วัดบ่อน้ำทิพย์ มีวิหารหลังเล็ก (1) ตั้งหันหน้าไปทางถนนสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี (3029)...
 
 
ผมเห็นบันไดมกรคายนาคเจ็ดเศียรนำทางขึ้นสู่ประตูวิหาร...
 
 
 


หน้าบันลวดลายวิจิตร...
 
 
 
ในวิหารค่อนข้างมืด เก็บภาพมาฝากเพื่อน ๆ แล้วดังนี้...
 




 
 
วิหารหลังไม่ใหญ่ดูเหมือนจะได้ใจผู้มาเยือน!

วัดบ่อน้ำทิพย์ ต.หนองผึ้ง อ.เมือง จ.เชียงใหม่

วัดบ่อน้ำทิพย์ ตั้งอยู่หมู่ ๑ ตำบลหนองผึ้ง อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่...

จากโบราณสถานวัดกู่ไม้ซ้ง (1) ผมปั่นจักรยานประมาณ 2 กิโลเมตรมาถึงวัดบ่อน้ำทิพย์ (2)


เว็บ cmhy.city ให้ข้อมูลไว้ว่า...
วัดบ่อน้ำทิพย์ นับว่าเป็นกลุ่มโบราณสถานที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของเวียงกุมกาม เนื่องจากความเป็นวัดขนาดใหญ่อยู่รอบนอกเวียง อย่างไรก็ตามซากโบราณสถานอย่างอื่นอาจยังคงฝังอยู่ใต้ดินหรือถูกทำลายไปหมดแล้ว จากรูปแบบสถาปัตยกรรมสันนิฐานว่าวัดนี้ควรมีอายุอยู่ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 20-21
ไม่ปรากฏประวัติในเอกสารทางประวัติศาสตร์ แต่ชาวบ้านใกล้เคียงเชื่อว่าเป็นวัดที่มีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ จึงเรียกโบราณสถานนี้ว่า "วัดบ่อน้ำทิพย์" ประกอบด้วย โบราณสถานที่มีลักษณะเป็นวิหารก่ออิฐถือปูน หันหน้าไปทางทิศตะวันออก ในผังรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ยกเก็จด้านหน้า มีบันใดทางขึ้นอยู่ตอนกลาง โดยยกเก็จด้านหลังอีก 1 ตอน อย่างไรก็ตามไม่พบเจดีย์ฐานประธานของวัด

 
ซากโบราณสถานมีให้เห็นไม่มากเหมือนกับวัดอื่น ๆ ที่ผมเพิ่งไปสำรวจมา...  
 


 
ต้นไม้สูงใหญ่ปกคลุมทำให้พื้นที่ร่มเย็น ตาแก่เมืองรถม้าเก็บภาพมาฝากเพื่อน ๆ แล้วดังนี้... 
 
 
 
 
 

เป็นวัดที่มีรูปปั้นบูชามากจริง ๆ 

 
 
  
 
 
 
 
 
 

 

กุฏิสงฆ์หลังเล็ก...ต่างกับวัดใหญ่ ๆ ในเมือง
 
 
วัดดูเงียบสงบ ทั้ง ๆ ที่อยู่ริมทางหลวงที่มีการจราจรคับคั่ง!!

วันพุธที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2568

Noman Land (ด่านน้ำเงิน-ห้วยโก๋น)

ารเดินทางท่องโลกสไตล์ลุงน้ำชามิได้มีแผนการเดินทาง (travel itinerary) เตรียมไว้ทุกขั้นตอน บางครั้งก็ต้อง improvise ปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ข้างหน้า...


อย่างเช่นทริปนี้... เจ้า Banian ซึ่งวางแผนไว้ว่าจะพาผมเดินทางจากด่านห้วยโก๋นไปจนถึงหลวงพระบางตามเส้นทางสายใหม่ 4B กลับถูกห้ามมิให้นำเข้าไปใช้ในลาว!! แผนที่คิดไว้แต่แรกก็ต้องปรับเปลี่ยนใหม่หมด ผมฝากจักรยาน หมวกกันน็อค และกระเป๋าตูดมด ไว้ที่ด่านห้วยโก๋นของไทยเราแล้วอาศัยรถยนต์คนไทยนั่งไปถึงเมืองหงสาเพื่อสัมผัสเมืองที่เคยอยากไป


ขากลับวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 ผมนั่งรถโดยสารจากเมืองหงสามาถึงเมืองเงิน ลงรถที่สถานีขนส่งฯ แล้วหาทางเดินทางกลับเข้าไทยไปหาเจ้า Banian ที่กำลังรอคอยอยู่ที่ด่านห้วยโก๋น
 

 
Improvise แต่ละย่างก้าว...ผมต้องไวครับ ตัดสินใจช้าไม่ได้ เพราะจะทำให้พลาดโอกาสที่มาเร็วไปเร็ว ที่สถานีขนส่งเมืองเงิน เห็นรถสองแถววิ่งเข้ามาจอดส่งผู้โดยสารและกำลังจะไป 
 
 
ผมรีบตรงเข้าไปหาทันที บอกคนขับหนุ่มลาวว่าจะไปด่านไทย เขาขอ 35 พัน แต่ต้องไปส่งของที่ตลาดก่อน ผมขอลดเป็น 30 พัน (45 บาท)  เมื่อตกลงตาแก่เมืองรถม้าก็หิ้วเป้ขึ้นนั่งบนรถทันที เห็นมั้ยครับว่าถ้าผมช้า จะต้องรอรถคันอื่นอีกนานแค่ไหนก็ไม่รู้??


จากสถานีขนส่งฯ (1) ไปด่านน้ำเงิน (L) ตั้ง 8 กิโลเมตร... จะเดินแบกเป้ไปคงตายซะก่อน!


รถวิ่งไปตามเส้นทาง 4A ผมยกกล้องขึ้นถ่ายรูปบ้านเมืองที่สงบเงียบไว้หน่อย...
 
 



 

ถึงทางแยกเข้าเมืองเงิน (2) สารถีเลี้ยวขวาเข้าไปยังตลาดสด...


 
 
จอดที่หน้าแผงผัก...
 
 
เห็นคนขับมีคนเดียว ตาแก่บ้านห้างฉัตรช่วยย้ายถุงบรรจุผักปลาทั้งหมดมาด้านหลัง ให้คนขับยกไปส่งให้แม่ค้า
 


เรียบโร้ย....
 

รถวิ่งกลับมาเลี้ยวขวาออกทางหลวง 4A เพื่อไปส่งผมที่ด่านน้ำเงิน (L)

เวลา 10.41 น. ใกล้แล้วล่ะ

วิ่งอีกนิดเดียว รถก็ไปจอดส่งผมที่หน้าด่านสากลน้ำเงิน ผมลงจากรถ จ่ายค่าโดยสาร 30 พัน แล้วเดินผ่าน checkpoint ได้รับการประทับตราขาออกลงบนหนังสือเดินทาง...

 

จากนั้นก็ถึงคราพิสูจน์ความอดทน ตาแก่เมืองรถม้าต้องเดินแบกเป้ไปตามถนนขึ้นลงเนิน ฝ่าเปลวแดด  ผ่าน noman land ไปยังด่านห้วยโก๋นของไทย จริง ๆ แล้วมีรถสองแถวรับส่งจากด่านลาวไปด่านไทย เสียเท่าไหร่ไม่รู้ แต่ผมไม่อยากรอ คิดว่าเดินแค่ 1 กิโลเมตรผ่าน noman land คงจะทำได้...

10.58 น. ขึ้นมาถึงตรงนี้แล้ว มองไปข้างหน้าเป็นทางลง...

 
นั่นงัย...หลักเขตประเทศไทย ตั้งอยู่ด้านซ้ายมือ จากจุดนี้การจราจรก็เปลี่ยนจากขับเลนขวาไปซ้าย

 
ทางลงเนินทำให้ก้าวเดินได้เร็วขึ้น... 






 
เห็นแล้วด่านห้วยโก๋นของแผ่นดินไทยอยู่ข้างหน้า...
 
 
 
   
 
ประทับตราหนังสือเดินทางแล้วเดินข้ามไปฝั่งขวา....
 
 
 โน่นงัย...ข้างหลัง booth นั่นมีเจ้า Banian รออยู่! 

 
จ๊ะเอ๋...เพื่อนยาก รอนานมั้ย?? เวลา 11.06 น. คือเวลาปลดปล่อย Banian ออกจากพันธนาการ
 

ขี่จักรยานออกจากด่าน ท้องเริ่มหิวซะแล้ว!