วันอังคารที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

พระพุทธรูปสี่มุมเมือง

ปั่นจักรยานจากบ้านผาลาดกลบเข้าเขลางค์นคร หากใช้เส้นทางผ่านวัดพระบาทก็จะต้องทะลุออกทางสี่แยกสนามบิน (1)
 
ตรงไปก็จะถึง "ห้าแยกประตูชัย" (2 )
 


ระหว่างจอดรอไฟเขียวที่ห้าแยกประตูชัย ผมเห็นกำแพงซึ่งได้รับการบูรณะเรียบร้อยแล้วทางด้านซ้ายมือ ตรงมุมโรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย...
 
 

มีชื่อว่า "กำแพงแก้วเพริศแพร้วบุญวาทย์" มิใช่กำแพงเมืองแต่เป็นกำแพงรั้วโรงเรียนตั้งขึ้นเพื่อเชิดชูผู้สถาปนาโรงเรียน...
 

เลยสี่แยกประตูชัยไปอีกนิดเดียวก็ถึงตลาดเทศบาลเมืองลำปาง (4)...

 

มีลานกว้างอยู่ฝั่งตรงข้าม ผมเห็นเสาไฟสูง...


มีมณฑปประดิษฐานพระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ (พระพุทธรูปสี่มุมเมือง)

 
เป็นอาคารทรงไทยแบบจตุรมุขก่ออิฐถือปูน โครงสร้างสร้างคาเป็นเครื่องไม้มุงทับด้วยกระเบื้อง บานประตู หน้าต่างลงรักปิดทอง




พระพุทธรูปสี่มุมเมือง
มีลักษณะเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิราบตามแบบศิลปะสุโขทัย สร้างด้วยโลหะผสมรมดำ โดยมีพระพักตร์แจ่มใส พระเนตรเปิด พระหัตถ์ขวาทับพระหัตถ์ซ้าย พระบาทขวาทับพระบาทซ้าย หล่อด้วยสำริด ขนาดหน้าตักกว้าง ๔๙ นิ้ว 
 

 
สร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๙ อายุกว่า ๕๐ ปี!

วันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

ป้าไม่หลอก แต่โดนป้ายหลอก

คุณป้าใจดีที่ร้านค้าชุมชนบ้านผาลาด (1) บอกผมชัดเจน ว่าให้ใช้เส้นทางจักรยาน (2) ผ่านร้านนำชัย (3) แล้วค่อยเลี้ยวขวาเข้าทางไปวัดป่าเวียงสวรรค์ (4)... 
 
ผมปั่นจักรยานตามเส้นทางที่คุณป้าบอก หวังว่าคงไม่หลอกตาแก่จากบ้านขามแดงนะ...
 

นั่นไง...ร้านนำชัย

ภาพจาก google street views - ขอขอบคุณ
 
ถึงทางเข้าไปวัดป่าเวียงสวรรค์   วัดซึ่งอยู่ไม่ไกลจากปล่องภูเขาไฟ

ภาพจาก google street views - ขอขอบคุณ 

ขี่จักรยานตรงไปจนเห็นทางรถไฟ (5) อยู่ข้างหน้า ตรงกับคำบอกของชายอีกคนนึงที่หยุดแวะถาม...
 
 

 

ตรงทางแยกมีป้ายวัดป่าเวียงสวรรค์ตั้งขวางหน้า ผมจะเลี้ยวขวาหรือเลี้ยวซ้าย?


เห็นลูกศรสีแดงชี้ไปทางขวา ไม่รู้ว่ากี่ กม.แต่คิดว่าไม่น่าจะไกลนัก...
 
 
เชื่อตามที่ป้ายบอก ผมปั่นจักรยานไปตามถนนลูกรัง ลัดเลี้ยวผ่านบ้านเรือนตั้งอยู่ห่าง ๆ มารู้ว่าผิดทางก็เมื่อมาถึง (2) บึงใหญ่ที่เคยมาก่อนหน้านี้ (1)

 
อ้าว...กลับมาหลังสถานีรถไฟอีกแล้วเหรอเนี่ย?
 
 
 
เฮ้ย...โดนป้ายหลอกให้หลงซะแล้วเรา!

 
ตาแก่บ้านห้างฉัตรกลับมาที่จุดตัดทางรถไฟ (5) คราวนี้ปั่นไปทางซ้ายมือ
 

ตามถนนลูกรังที่ไม่มีอะไรบอกให้รู้เลยว่าข้างหน้าเป็นวัดป่าเวียงสวรรค์และปล่องภูเขาไฟ

 
สองข้างทางก็อย่างที่เห็น....
 

ปั่นไปเรื่อย ๆ จนชักไม่แน่ใจแล้วว่ามาถูกทาง...

 
แล้วก็มาถึง...จุดจบ เมื่อล้อจักรยานลื่นไถลกับร่องลึกที่มองไม่เห็น ทำให้จักรยานล้มทันที คนขี่พุ่งไปข้างหน้า หัวฟาดลงกับพื้นถนน...
 
 
 
โชคดีที่สวมหมวกกันน็อค ไม่ตาย...ยังถ่ายภาพกางเกงสะดอฉีกขาดและแผลที่หัวเข่าได้
 
 

รู้สึกเจ็บทั้งที่หัวและที่เข่า แต่ก็ยังลุกขึ้นได้ ผมรีบยกจักรยานขึ้นตั้ง สำรวจดูแล้วยังขี่ได้ กล้อง Canon ที่คล้องคอมาก็ยังดีอยู่...

ข้างทางมีเพิงให้นั่งพักดื่มน้ำ...

 
ตาแก่เมืองรถม้าบอกตัวเองให้กลับบ้านได้แล้ว...

ภูเขาไฟอยู่ที่ไหนเอ่ย?

พาเจ้า Banian นั่งรถไฟจากสถานีรถไฟห้างฉัตรมาลงที่สถานีศาลาผาลาดเวลาเที่ยงครึ่ง

 

ก่อนออกเดินทางผมศึกษาเส้นทางจาก google maps ไว้แล้ว แต่มิได้จดใส่กระดาษหรือถ่ายภาพแผนที่ไว้ คิดว่าจะจำได้ พอมาถึงเข้าจริง ๆ กลับนึกอะไรไม่ออกเลย...ผมเลือกที่จะปั่นจักรยานออกทางด้านหลังสถานี ผ่านบ้านไม้หลังเล็กซึ่งคงเป็นบ้านพักพนักงานรถไฟ

 

อยากมาดูภูเขาไฟลำปางที่ดับแล้วซึ่งกล่าวกันว่าเป็นเนินเขาที่มีป่าไม้ปกคลุมอยู่ทั่วไปทำให้มองเห็นชัดเจน แต่หลักฐานที่แสดงว่าบริเวณนี้เป็นภูเขาไฟคือมีก้อนหินลาวาซึ่งเป็นหินชนิดเดียวกับที่พบได้ในเขตที่มีภูเขาไฟแหล่งอื่น ๆ.... แล้วมันอยู่ตรงไหนล่ะ?

ริมถนนด้านหลังสถานีรถไฟมีสวนเล็ก ๆ ตั้งอยู่...

ล้อมรอบด้วยรั้วราวเหล็ก ผมจอดจักรยานถ่ายรูปไว้หน่อย...


มีสะพานดำข้ามคลอง แต่มีป้ายบอกห้ามข้ามเด็ดขาด บริเวณสนามหญ้าก็ดูเหมือนจะไม่เปิดให้ใช้...ไม่เป็นไร ขอถ่ายรูปไว้ก็พอ

 

ปั่นจักรยานต่ออีกนิดนึง ถึงอ่างเก็บน้ำเล็ก ๆ (L)

 ขยับต่ออีกนิดผ่านคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล (F) 

 เห็นแต่อาคารสถานที่ ไม่เห็นมีผู้คน (ให้ได้ถาม)

อาคารสามชั้นดูเหมือนเป็นตึกร้าง คิดในใจว่าน่าจะใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำหนังผี!

 ถึงทางแยกข้างหน้าผมเลี้ยวซ้ายไปตามถนนลูกรัง (R)

ยางล้อเจ้า Banian บดไปข้างหน้า ส่ายซ้ายขวาตามรอยรถใหญ่ ผมไม่แน่ใจว่าทิศไหนไปภูเขาไฟ (V)

มองไปทางไหนก็ดูคล้ายกัน...


ฤาว่าจะปั่นจักรยานหลงวกวนอยู่แถวนี้แล้วกระมัง?