ขี่จักรยานจากศูนย์ข้อมูลเวียงกุมกามไปได้ไม่ไกล…ผมก็พบป้ายชี้ทางไป “วัดอีก้าง” และ “วัดหนานช้าง” อยู่ด้วยกัน!
สองวัดอยู่ไม่ไกลกัน จากซุ้มไม้ไผ่ที่เห็น (1) ทางด้านขวาจะเป็นวัดอีก้าง (3) ถ้าเข้าซุ้มแล้วตรงไป วัดหนานช้างก็อยู่ทางซ้ายมือ ผมเลือกที่จะไปวัดอีก้างก่อน…
จอดจักรยานไว้ตรงลาน (2) ใกล้ ๆ กับเจดีย์ (3) แบบระฆังทรงกลม…
ข้อมูลในอินเทอร์เน็ตบอกว่า ที่เรียกกันว่า “วัดอีก้าง” เพราะเดิมทีบริเวณนี้เป็นป่ารกร้าง มีฝูงลิงฝูงค่างอาศัยอยู่มากมาย (คำเมืองเรียก “ค่าง” ว่า “ก้าง”)
เอกสารการขุดค้นและบูรณะกล่าวว่า วัดอีก้างอยู่ติดกับแนวคูน้ำ – คันดินด้านทิศตะวันตกของเวียง อยู่ลึกลงไปใต้ผิวดินปัจจุบันประมาณ 2 เมตร ประกอบด้วยวิหารและเจดีย์ตั้งอยู่บนฐานเดียวกัน เป็นแบบล้านนาดั้งเดิมอย่างเต็มตัว เจดีย์อีก้างนี้จึงอยู่ในช่วงพุทธศตวรรษที่ ๒๑ หรือ ในรัชสมัยของพระเมืองแก้ว และไม่เก่าไปกว่าพุทธศักราช ๒๐๖๐ ตัววิหารหันทิศไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ด้านหลังวิหารมีอาคารเชื่อมต่อคล้ายณฑป ส่วนเจดีย์อยู่หลังสุด บริเวณโดยรอบมีทางเดินสำหรับประทักษิณ…
ซูมภาพเจดีย์ให้เห็นกันชัด ๆ…
วิหารขนาด ๒๐ เมตร x ๑๓.๕ เมตร ตั้งอยู่บนฐานเดียวกันกับเจดีย์…
มีการปลูกต้นไผ่เรียงกัน เป็นรั้วธรรมชาติที่ดูดี…
วันนี้โชคดีที่มีการซ้อมของบรรดาช่างฟ้อนสาว ๆ และสาวน้อยให้ชม ผมเข้าใจว่าคงจะเป็นการซ้อมเพื่อออกงานใหญ่ และน่าจะเป็นการซ้อมรอบสุดท้าย เพราะเห็นแต่งตัวกันครบเครื่อง…
พร้อมทั้งวงดนตรีพื้นเมืองที่บรรเลงได้อย่างไพเราะ…
ผมรู้สึกชื่นชมเมื่อได้เห็นคนเฒ่าคนแก่มีส่วนร่วมในกิจกรรมเช่นนี้ “จ้างฟ้อน” เป็นวิถีชีวิตของสาว ๆ ในหมู่บ้านทางภาคเหนือที่สืบทอดกันมายาวนาน!
การซ้อมยุติแล้ว! ผมคว้าจักรยานไปเที่ยวต่อที่วัดหนานช้าง!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น