ผมได้เห็นภาพ “เรือใกล้จม” และคำสอนจากพระอาจารย์ยสาโร ซึ่งครูแม้วได้แชร์ไว้ในเฟสบุ็ค ต้องขออนุญาตนำมาโพสต์ต่อดังนี้…
การปรนนิบัติดูแลผู้ใหญ่ผู้มีพระคุณถือว่าเป็นบุญ แต่แม้แต่การเสียสละในกิจที่เป็นบุญนั้น เราไม่ควรละเลยการดูแลตัวเอง เพราะถ้าเราปล่อยให้เหน็ดเหนื่อยเกินไปจนหมดแรง หนึ่ง สุขภาพเราอาจจะเสียจนถึงขั้นทำหน้าที่ไม่ได้ สอง ตอนเหนื่อยมาก ๆ นั้น เรามักจะเผลอสติ ใช้วาจารุนแรงได้ง่าย แล้วมาเดือดร้อนใจทีหลัง โทษตัวเองว่าเราเป็นลูกที่ไม่ดีทำบาปทำกรรมไว้กับบุพการี
ทั้งหมดนี้ไม่ใช่ว่าเราเป็นคนไม่ดีหรือเป็นลูกอกตัญญูหรือไม่รู้จักบุญคุณเขาหรือบุญคุณท่านหรอก แต่เราขาดปัญญาในการรับใช้ ในการสร้างประโยชน์กับคนอื่น เราทำเกินกำลังของตัวเอง เกินกำลังก็เกิดปฏิกิริยาภายในจิตใจ
เราต้องให้อภัยตัวเอง เพราะวาจานั้นไม่ได้สะท้อนถึงความรู้สึกที่แท้จริงต่อท่าน และเราต้องเรียนรู้จากประสบการณ์ให้รู้จักพอดีในการเสียสละ เพราะในการสร้างประโยชน์ผู้อื่นในระยะยาว เราต้องรู้จักรักษากายและใจของเราไปด้วย
อยากให้เพื่อน ๆ ดูภาพเรือที่รับน้ำไว้จนเกือบเต็มลำ กำลังใกล้จม! ผมเปรียบได้กับเรือลำนี้แหละ!!
๕-๖ ปีกับการดูแลพี่ชายที่ไม่ยอมให้ความร่วมมือ (ไม่ขอเล่าเพราะจะเป็นการนำเรื่องภายในมาขยายความ) ตอนนี้บอกได้อย่างเดียวว่า “ผมแย่แล้ว” ผมกลายเป็นคนที่ไม่อยากออกไปเจอะเจอผู้คน ใจเหลือนิดเดียว ใครพูดอะไรเป็นผิดหู บางครั้งผมก็พูดประโยคเดิม ๆ ออกมาโดยไม่รู้ตัว เช่นว่า “ฮาบอกคิงแล้วบ่เจื้อ!” บางครั้งก็ร้องเอะอะโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย! ที่สำคัญคือผมรู้สึกเกลียดพฤติกรรมของพี่ชายจนไม่อยากพูดด้วย ไม่อยากเข้าใกล้ แต่ก็ต้องทำ…
ยิ่งใกล้ travellin’ light ไปพม่า พอรู้…พี่ชายก็ยิ่งมีอาการ! บอกผมว่าขยับตัวไม่ได้แล้ว ปวดข้อ แขนขาก็ไม่มีแรง!!
ผมเริ่มคิดถึงคำว่า No Show คือยกเลิกโครงการ Travellin’ light ไม่ไปแล้ว… อยู่มันอย่างเนี้ยแหละ! หาอาหารให้คนใจปลาซิวกินไปเรื่อย ๆ จนถึงวันหนึ่งซึ่งทำให้ขาดผึง…ล้มตึง กลายเป็นเรือที่จมลง!
“รู้จักพอดีในการเสียสละ เพราะในการสร้างประโยชน์ผู้อื่นในระยะยาว เราต้องรู้จักรักษากายและใจของเราไปด้วย”
ผมอ่านซ้ำแล้วซ้ำเล่า…พยายามทำใจไม่ยกเลิก Travellin’ light ไปพม่า!
เรือใกล้จมแล้วครับ!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น