วันพฤหัสบดีที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2567

เมื่อตาแก่หงายหลัง..!

ากสถานีรถไฟขุนตาน (S1) ผมเลือกที่จะปั่นจักรยานไปอุทยานแห่งชาติดอยขุนตาน (P) โดยใช้ทางหลวงชนบทหมายเลข 5017 (R) เห็นป้ายชี้ทางบอกไว้ชัดเจน...ไม่หลงแน่นอน

 
บนถนนลงเนินสูงต้องใช้ความระมัดระวังสูง ผมจับแฮนด์และกุมเบรคให้มั่น...บีบ brake levels พร้อมกันทั้งสองข้าง ค่อย ๆ ปล่อยให้จักรยานวิ่งลงไป


ขณะลงจากสถานีรถไฟ ผมเห็นป้ายวัดดอยขุนตาน (W) ตั้งอยู่ด้านขวามือ...ได้แต่เพียงปักหมุดไว้ว่าขากลับจะแวะขึ้นไปถ่ายรูป

 
ทางหลวงชนบทหมายเลข 5017 ขึ้นสู่สำนักงานอุทยานแห่งชาติดอยขุนตาน เป็นถนนลาดยาง 2 เลน (ขึ้นเนินตลอดระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร) ไม่มีไหล่ถนน...แต่ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับจักรยาน เพราะนาน ๆ ถึงจะมีรถยนต์วิ่งผ่านมา  เนื่องจากจักรยานพับน้ำหนักเบามีกระเป๋าตูดมดถ่วงอยู่ด้านหลัง รวมกับน้ำหนัก backpack ที่สะพายอยู่บนหลัง เมื่อความชันถึงระดับที่ทำให้ล้อหน้ายก คนขี่หงายหลัง จักรยานล้ม! ผมลงไปนอนอยู่กับพื้นถนน หัวเข่าซ้ายถลอก!  นับว่าโชคดีที่ถนนว่าง ไม่มีใครเห็น!

 
หลังจากรถล้ม...ผมต้องลงจูงจักรยานขึ้นเขาไปตลอด จนถึงปากทางเดินเท้าไปสถานีรถไฟฯ

 
หยุดแวะพักและถ่ายรูปไว้หน่อย... 
 

มีป้ายชี้ทางชัดเจนบอกว่าระยะทาง 1.2 กิโลเมตร ติดกันมีป้ายร่ายกลอนซึ่งไม่ค่อยสละสลวยซักเท่าใดตั้งไว้ให้อ่าน ผมพิมพ์ไว้ให้เพื่อน ๆ แล้วดังนี้...
 
 อุโมงค์รถไฟ ยาวสุด ในสยาม                    อีกเอื้องสาม ปอยขุนตาน ชื่นกลิ่นขวัญ
อุทยาน ล้อมรักษ์ ถิ่นสำคัญ                   ณ เขตสัน ปันแดน ลำพูน - ลำปาง
ยอหนึ่งบ้าน พักบิดา การรถไฟ                            กรมพระกำแหงเพชรอัครโยธินใช้ได้พักค้าง
ยอสองบ้าน หม่อมฯ คึกฤทธิ์ จำไม่จาง  อยู่ท่ามกลาง สวนไม้ผล จนรุ่นเรา
ยอสามบ้าน มิชชันนารี ได้สร้างไว้      บ้านหลังใหญ่ ถัดไป อีกเนินเขา
มีน้ำตก ตาดเหมย กระเซ้นเคล้า      ลมพัดแผ่ว พริ้วเบา รื่นสราญ
อีกยอสี่ มีมุมมอง ได้รอบทิศ               ใครพิชิต นับว่า ท่านอาจหาญ
อุทยานฯ ดอยขุนตาน สรรสิ่งดี               รอน้องพี่ เพื่อนพ้อง มาเยือนเอย

นั่นไง...เส้นทางลัด มีต้นไม้ล้มขวางอยู่เหมือนเป็นซุ้มประตูสู่สถานีรถไฟฯ



 
หายเหนื่อยแล้วจูงจักรยานขึ้นเขาต่อ ถึงจุดที่ไม่ชันจนหงายหลัง ผมเริ่มปั่นต่อได้  ในที่สุดถึงต้นไม้ยืนขวางอยู่กลางถนน (T)

 


หยุดพักหายใจ เห็นป้ายชี้ทางไปอุทยานฯ และไปลำปาง...รู้แล้วว่าถึงสามแยกตรงหลักกิโลเมตรที่ O 



 
 
นั่นไง...ถนนที่ลงไปห้างฉัตร
 
 
จากร้านเปียโนห้างฉัตร เคยปั่นจักรยานขึ้นมาแล้ว (33 กิโลเมตร)... 
 
 
ถ่ายรูปตรงจุดนี้ไว้หน่อย...



 
จากนั้นก็ปั่นจักรยานอีกประมาณ 600 เมตรถึงจุดหมาย  ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมก่อนครับ...
 
 
 
 เป็นตาแก่ สว. ขี่จักรยานมา... ผมเสียแต่ค่าสถานที่ตั้งเต็นท์ 2 คืน (60 บาท) เท่านั้น อย่างอื่นฟรี

 
เข้ามาแล้วต้องไปที่สำนักงานก่อน...
 
 
 
สวัสดีจ้า...คนสวย ไม่เมื่อยแขนบ้างเลยรึ?


ไปสอบถาม ทักทายเจ้าหน้าที่อุทยานฯ และขอให้เค้าประทับตราลงใน passport อุทยานแห่งชาติ
 

เรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลาปั่นจักรยานขึ้นไปข้างบนโน้นนนนนนน....

 

 ลานสนที่จะตั้งเต็นท์นอนอยู่อีกไกลแค่ไหนไม่รู้... ต้องลองขี้นไปดู!!

1 ความคิดเห็น: