คำว่า Phaya หรือ Paya ในภาษาพม่า เท่าที่ได้ค้นหาคำแปล มีความหมายว่า "เจดีย์" (ถ้าผิดก็ต้องขออภัยอย่างแรง) ดังนั้นผมจึงขอเรียกเจดีย์องค์ที่เห็นนี้ว่า "พระเจดีย์บู" นะครับ...
เห็นในเว็บท่องเที่ยวของไทยเรียกว่า "เจดีย์น้ำเต้า" ส่วนเว็บ baganmyanmar.com ก็บรรยายว่า...
Bu Paya is located on the bank of the Ayeyawady River, in the north-west direction of the city wall of Bagan. It is traditionally opined that Bu Paya was built in A.D 3rd century by King Pyusaw Hti. The shape of the pagoda is typically Pyu. In the Pyu Period of Myanmar history, pagodas were built in cylindrical form with no decoration of art work.ไม่รู้สึกว่าไกล...ผมปั่นจักรยานไปจนถึงพระเจดีย์น้ำเต้า ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอิรวดี
In Bagan, before the bell shaped pagodas came into fashion, Pyu type pagodas were quite common. Besides Bu Paya, Nga Kywe Na Daung, Pauk Pin Ya and Htoo Pa Lay Su Tan Pagodas on the north of Thiri Pyit Saya village are of Pyu type.
The above mentioned pagodas resemble in design Bei Bei Gyi, Paya Gyi, Paya Mar pagodas at an old Pyu capital Thaye Khit Taya in Pyay (near Hmaw za village). They are ancient zedis of A.D 11th century, predating King Anawrahta's time.
The earthquake of 1975 toppled it down sparing only its base platform. During its reconstruction, the base platform was excavated. A statue of Avalokestra deva (the Bodithat) and some votive terra cotta tablets bearing prints of the Buddha in abaya mudra (no danger gesture with two hands stretched out in the posture of preventing danger) were discovered. They are on display at the Archaeological Museum, Bagan. These artifacts belong to the Pyu period, confirming the traditional opinion that Bu Paya was King Pyu Saw Hti's dedication.
ให้รางวัลตัวเองด้วยน้ำดื่มเย็น ๆ หนึ่งขวด ก่อนที่จะเดินเท้าเปล่าเข้าไปยังองค์พระเจดีย์...
ถ่ายภาพมาให้เพื่อน ๆ ดู...
ที่ด้านหน้ามีป้ายคำแนะนำสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ ในการซื้อสินค้าหัตถกรรม ของเก่า หรืองานศิลปะ ผมเห็นว่ามีประโยชน์จึงถ่ายรูปไว้ด้วย...
เว็บท่องเที่ยวมักพูดถึงการมานั่งชมท้องฟ้ายามอัสดงที่นี่ เหมือนกับที่บางคนแนะนำให้ขึ้นพระธาตุพูสีที่หลวงพระบางเพื่อดูพระอาทิตย์ตกดิน แต่สำหรับผมแล้ว คิดว่าคงไม่มีภาพไหนจะตรึงตาตรึงใจได้เท่ากับภาพ sunset ขณะนั่งเรือล่องมาจากมัณฑะเลย์อีกแล้ว...
วันนี้ได้มาเห็นพระเจดีย์น้ำเต้าขณะที่แดดร้อนเปรี้ยงอย่างนี้ก็พอใจแล้ว!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น