ระหว่างเดินทางกลับ ผมก็แวะหากำไรไปเรื่อย ๆ "วัดม่อนปรางค์" ซึ่งอยู่ทางซ้ายมือก็น่าสนใจ!
ปั่นจักรยานจนถึงหลักเขตห้ามพูดโกหก...
ณ บริเวณสี่แยกตลาดลับแล เป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์พระศรีพนมมาศ...
พระศรีพนมมาศ เกิดเมื่อ พ.ศ. ๒๔๐๔ เดิมชื่อ "นายทองอิน" เป็นนายอากรสุราเชื้อสายจีน ตั้งถิ่นฐานอยู่ที่เมืองลับแล ในปี พ.ศ. ๒๔๔๔ นายทองอิน ซึ่งขณะนั้นมิได้รับราชการได้ชักชวนราษฎรทำถนนจากเมืองลับแลถึงบางโพ (ท่าอิฐ) เป็นระยะทาง ๖ กิโลเมตร รวมทั้งสร้างเหมืองฝายกั้นน้ำ โดยมิได้ใช้งบประมาณแผ่นดิน ซึ่งต่อมาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชการที่ ๕) เมื่อคราวเสด็จประพาสเมืองลับแลเมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๔ ทรงทราบ และพอพระราชหฤทัย จึงโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็น "ขุนพิศาลจีนะกิจ" พร้อมกับพระราชทานชื่อถนนสายนี้ว่า "ถนนอินใจมี" เพื่อเป็นเกียรติแก่ "นายทองอิน" ต่อมาเมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๗ ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็น "หลวงศรีพนมมาศ" ผู้ว่าราชการเมืองลับแล จนกระทั่งถึง พ.ศ. ๒๔๕๑ ได้รับแต่งตั้งเป็น "พระศรีพนมมาศ" นายอำเภอเมืองพิชัย และได้รับพระราชทานยศเป็นอำมาตย์ตรี ตำแหน่งเกษตรมณฑลพิษณุโลก
ท่านเป็นผู้ริเริ่มวางโครงข่ายงานก่อสร้างถนนสำคัญหลายสายในอำเภอลับแล รวมทั้งการก่อสร้างฝายกั้นน้ำเพื่อการชลประทานกว่า ๓๐ แห่ง ส่งเสริมการศึกษาโดยจัดตั้งโรงเรียนส่วนตัวขึ้นเป็นแห่งแรกในอำเภอลับแล (ปัจจุบันคือโรงเรียนเทศบาลศรีพนมมาศพิทยากร) ส่งเสริมการเกษตรโดยฝึกสอนให้ราษฎรรู้จักปลูกผัก และเลี้ยงสัตว์ ตลอดจนเป็นผู้ริเริ่มนำลางสาดและทุเรียนมาเผยแพร่ เริ่มฝึกสอนการทำไม้กวาดตองกง ผลงานของท่านก่อให้เกิดประโยชน์อย่างใหญ่หลวงแก่ชาวลับแลมาจนถึงทุกวันนี้ ท่านจึงได้รับการยกย่องเป็น "คนดีเมืองลับแล และนักปกครองตัวอย่างของกระทรวงมหาดไทย"
พระศรีพนมมาศ ถึงแก่กรรมด้วยโรคลม เมื่อวันที่ ๑๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๖๔ รวมสิริอายุได้ ๖๐ ปี ชาวลับแลพร้อมใจกันสร้างอนุสาวรีย์ของท่าน ไว้ ณ สี่แยกตลาดลับแล เพื่อสดุดีและระลึกถึงคุณงามความดีของท่านสืบไป
ไปต่ออีกไม่ไกลก็เห็น "วัดเสาหิน" หรือ "วัดฝายหิน" อยู่ทางด้านซ้ายมือ...
ขี่จักรยานจากวัดเสาหินไปตามทางหลวงหมายเลข 1041 ได้พักใหญ่ ๆ พบเส้นทางเข้าไปยังวัดนาทะเลอยู่ทางขวามือ... ผมหักเลี้ยวเข้าไป!
จวน ๕ โมงเย็นแล้ว! ผมกลับมาตั้งลำบนทางหลวงหมายเลข 1041 มั่นใจว่าถ้าขี่ตรงไปเรื่อย ๆ ก็จะถึงวัดพระแท่นศิลาอาสน์ ในขณะที่บนท้องฟ้าเมฆฝนมืดดำกำลังก่อตัวอย่างน่ากลัว
ผมเพิ่มแรงถีบจักรยานฝ่าลมพายุที่พัดแรงขึ้น เย็นวันนี้คงไม่พ้นต้องเปียกฝนอย่างแน่นอน!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น