จากวัดโพนแพง (1) ผมปั่นจักรยาน ๑ กิโลเมตร ถึงวัดทาด (2) หรือสะกดชื่อเต็มเป็นภาษาไทยว่า "วัดธาตุฝุ่นสันติธรรมวราราม"
ต้องเป็นวัดใหญ่และมีความสำคัญมาก แต่ขณะที่ไปผมก็ยังไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร
ก็ได้มาศึกษาค้นคว้าทีหลังเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของ "พระครูโพนสะเม็ก หรือ หลวงพ่อขี้หอม” ถึงทราบว่าวัดนี้เป็นที่เก็บอัฐิธาตุส่วนหนึ่งของท่าน
บทความ "พระครูโพนสะเม็ก หรือหลวงพ่อขี้หอม" (จันท์ อินทุพิลาล เขียน - ชาย โพธิสิตา แปลจากต้นฉบับภาษาลาว) บรรยายว่า...
ลุถึง พ.ศ ๒๒๖๓ (จ.ศ. ๑๐๘๒) ปีชวด พระครูยอดแก้วโพนสะเม็กก็อาพาธลงด้วยโรคชรา และถึงแก่มรณภาพในวันพุธ ขึ้นห้าค่ำ เดือนเจ็ด อายุได้ ๙๐ ปี พระเจ้าสร้อยศรีสมุทรฯ พร้อมกับเสนาอำมาตย์ข้าราชการ และประชาราษฎร์ ก็แต่งตั้งการทำบุญให้ทาน มีการละเล่นสนุกสนานสมโพชศพอยู่หนึ่งเดือน จึงพากันถวายเพลิงศพของท่านเสร็จสิ้นแล้ว จึงให้สร้างอารามขึ้นในที่เผาศพนั้น และก่อเจดีย์ใหญ่องค์หนึ่งบรรจุอังคารของท่านไว้ในอารามนั้น เรียกวัดนั้นว่า "วัดธาตุ" มาจนทุกวันนี้
พ.ศ. ๒๕๑๓ พระเทพรัตนโมลี (แก้ว) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนม ได้จัดการหล่อรูปของพระครูยอดแก้วโพนสะเม็ก หรือหลวงพ่อขี้หอมไว้ที่วัดพระธาตุพนม นัยว่าหล่อตามนิมิตของผู้นั่งสมาธิที่มีกำลังจิตบอกลักษณะรูปร่างท่านให้
ภาพจากอินเทอร์เน็ต |
(ซ้าย) รูปหล่อพระครูโพนสะเม็ก (ขวา) บริเวณวัดที่จำปาสัก ที่เชื่อกันว่าบรรจุอัฐิของ “หลวงพ่อขี้หอม” เพื่อน ๆ ดูภาพขาวดำสมัยก่อนแล้วมาดูภาพที่ผมบันทึกมาฝากนะครับ...
ตาแก่เมืองรถม้ารู้สึกดีใจจริง ๆ ที่ได้มาถึงที่นี่!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น