จากสะพานเอกาทศรถ (1) ผมปั่นจักรยาน ๒ กิโลเมตร ข้ามทางรถไฟไปยังวัดเจดีย์ยอดทอง (2)...
ถ่ายภาพซุ้มประตูไว้หน่อย...
ถัดไปไม่ไกลมีอีกซุ้มประตูนึง เค้าจำลองเจดีย์ยอดทองขึ้นไปวางไว้ข้างบน...
ซูมใกล้ ๆ ผมเห็นว่าขนาบข้างด้วยมังกือ เอ้ย.. มังกร อีกข้างละตัว (คิดว่าไม่ใช่พญานาค! คงจะหลงมาจากเมืองจีน?)
เข้าไปเจอป้ายของ อสท. บรรยายว่า...
วัดเจดีย์ยอดทอง สันนิษฐานว่าจะสร้างในสมัยเดียวกับวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ คือสมัยสุโขทัย เป็นวัดที่ตั้งอยู่นอกกำแพงเมืองพิษณุโลก ปัจจุบันอยู่ในเขตเทศบาล วัดเจดีย์ทองในปัจจุบันเหลือเจดีย์ทรงดอกบัวตูมเพียงองค์เดียวที่เป็นศิลปสุโขทัย ฐานกว้าง ๙ เมตร สูง ๒๐ เมตร เฉพาะยอดทรงดอกบัวตูมนั้น ได้เห็นรอยกระเทาะของปูนทำให้แลเห็นการเสริมยอด โดยการพอกปูนเพิ่มที่ยอดแหลมของดอกบัวตูม เป็นที่น่าสังเกตว่าลักษณะเจดีย์ทรงดอกบัวตูมซึ่งเป็นศิลปะของสมัยสุโขทัยนี้ ยังคงมีปรากฏอยู่ในจังหวัดพิษณุโลกเพียงองค์เดียวเท่านั้น ส่วนพระปรางค์ (พระศรีรัตนมหาธาตุ) ที่วัดใหญ่นั้น ผู้รู้ยืนยันว่าทรงเดิมเป็นแบบดอกบัวตูม ดัดแปลงแบบเป็นแบบปรางค์สมัยรัชกาลลมเด็จพระบรมไตรโลกนารถ ฉะนั้น วัดเจดีย์ยอดทองจะต้องเป็นวัดโบราณที่สร้างขึ้นในสมัยเดียวกับวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ นับว่าเป็นวัดเก่าแก่ที่ควรจะช่วยกันอนุรักษ์ไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้ชมกันต่อไป
นำจักรยานไปจอดไว้หน้าอุโบสถ...
ผมเปิดประตูเดินเข้าไปภายในเขตพัทธสีมา ไม่เคยลืมเก็บภาพใบเสมา...
ประตูโบสถ์เปิดอยู่ ภายในเรียบง่าย นาฬิกาบอกเวลาใกล้ ๕ โมงครึ่ง...
ด้านข้าง...
ด้านหลัง...
ถัดไปเป็นหอระฆังใหม่สร้างเมื่อปี ๒๕๕๗
จุดเด่นของวัดคือพระเจดีย์ทรงดอกบัวตูม ซึ่งสันนิษฐานว่าสร้างในรัชสมัยพระมหาธรรมราชาที่ ๑ (พระยาลิไท) คราวเสด็จมาครองเมืองพิษณุโลก ๗ ปี (ระหว่างปี พ.ศ. ๑๙๐๕ - ๑๙๑๒) นับเป็นสถาปัตยกรรมศิลปะสุโขทัยที่ยังคงเหลืออยู่ในจังหวัดพิษณุโลกเพียงองค์เดียว ผมเก็บภาพมาให้เพื่อน ๆ แล้วดังนี้...
มีผู้พิทักษ์อยู่ใกล้ ๆ แต่มันไม่ยักสนใจตาแก่จากเมืองรถม้าที่กำลังจะปั่นจักรยานออกไป....
จุดหมายต่อไปคือตลาดนัดสินค้ามือสองที่วัดธรรมจักร...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น