ส่วน "FB Trip ไปลำพูน" ยังคงเหลือ "วัดต้นเหียว" อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ เป็นโบนัสสำหรับทริปนี้อีกวัดนึง ่ได้แวะไปเยี่ยมชมก็เมื่ออาทิตย์ใกล้ลับลา จากวัดช่างเคิ่งผมปั่นจักรยานประมาณ ๑ กิโลเมตรครึ่งถึงทางเข้าวัดต้นเหียวซึ่งอยู่ทางด้านซ้ายมือ...
วัดต้นเหียว สร้างเมื่อประมาณ พ.ศ. ๒๓๘๕ ตั้งชื่อวัดโดยใช้ชื่อต้นไม้ที่ขึ้นอยู่หน้าบริเวณวัด ซึ่งก็คือ “ต้นไม้เหียว” ซึ่งปัจจุบันยังคงเหลืออยู่ราว ๗ ไร่ภายในวัดปรากฏหลักฐานทางโบราณวัตถุสำคัญ คือหอพระไตรปิฏก หอธรรม อันเป็นที่เก็บคัมภีร์ธรรมใบลาน หนังสือประวัติคำสอนและพระไตรปิฎก ซึ่งสันนิษฐานว่าหอพระไตรปิฏกหลังนี้สร้างขี้นพร้อมกับวัดต้นเหียว นอกจากนี้ทางวัดต้นเหียวยังเก็บหลักฐานทางโบราณวัตถุอย่างอื่น ได้แก่ ของเก่าของวิหารหลังเก่า เช่น หน้าจั่ว กลองหลวง นาคกระตัน เป็นต้น
ลักษณะทางสถาปัตยกรรมของหอธรรมวัดต้นเหียวนั้นมีความพิเศษกว่าวัดทั่วไปในล้านนา เพราะวัดทั่วไปส่วนใหญ่นิยมสร้างหอธรรมเป็นอาคารสองชั้น ชั้นล่างก่ออิฐถือปูนเพื่อความแข็งแรง ส่วนชั้นบนนิยมสร้างด้วยไม้ในลักษณะของสถาปัตยกรรมล้านนาย่อส่วน
หอธรรมวัดต้นเหียวเป็นอาคารปูนชั้นเดียว เสาสี่เหลี่ยม ต้นใหญ่และทึบตัน ทางเข้าด้านหน้าเป็นมุขยื่นออกมาเล็กน้อย ประตูโค้ง กรอบประตูประดับด้วยกระจกสีเรียบง่าย คล้ายลักษณะสถาปัตยกรรมยุโรป โครงสร้างหลังคาสร้างด้วยไม้แบบเรียบๆ หน้าบันกรอบกลางประดับกระจกสีเป็นลายเลขาคณิต รอบๆ เป็นไม้แกะสลักลายลายพรรณพฤกษา มองแล้วแปลกตาดี
พระวิหารของวัดต้นเหียวเป็นพระวิหารสร้างใหม่ตามแบบสถาปัตยกรรมล้านนาประยุกต์ ลวดลายวิจิตรงดงาม ตัวอาคารเน้นโทนสีเขียวและทอง บันไดทางขึ้นพระวิหารด้านหน้าขนาบด้วยปูนปั้นพญานาคตามแบบธรรมเนียมนิยม หน้าบันประดับด้วยลวดลายพรรณพฤกษา ฝาผนังเขียนลวดลายจิตรกรรม เป็นเรื่องราวพุทธประวัติ
(ที่มาข้อมูล : theyang.go.th - tripchiangmai.com - ขอขอบคุณ)
หอไตรที่ถูกกล่าวถึง...
หอระฆังวัดต้นเหียวสร้างอยู่บนอาคาร ๓ ชั้นซึ่งใช้ประโยชน์ได้มากกว่าหอระฆังที่สร้างกันโดยทั่วไป...
ที่เห็นคงจะเป็นศาลาอเนกประสงค์...
FB Trip ไปลำพูนจบแล้ว ขอบคุณเพื่อน ๆ ที่ให้ความสนใจ แล้วผมจะไปแสวงหาเรื่องราวมาฝากอีกนะครับ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น