กังวลใจอยู่เรื่องเดียวเท่านั้นคือ ยางล้อจักรยานค่อนข้างอ่อน ยิ่งขี่ออกไปไกลตามถนนขรุขระ ก็ยิ่งต้องลุ้นว่าวันนี้จะกลับเสียมเรียบโดยยางไม่แบนได้หรือเปล่า?
ถนนช่วงที่ก่อสร้าง ล้อรถตกหลุมทีใด เป็นต้องเสียวเข้าไปถึงกึ๋น!...
พ้นจุดอันตรายมาแล้วถึงได้ปั่นไปตามถนนลาดยาง...
ผ่านบ้านเรือน หนองน้ำ แลทุ่งนา...
มีร้านอาหารเปลญวน (hammock restaurant) ให้เห็นตามสองข้างทาง...
ระหว่างทางมีรถบัสขนนักท่องเที่ยวผ่านไปคันแล้วคันเล่า....
สองขาค่อย ๆ ปั่นไปเรื่อย ๆ เห็นภาพแปลกตาที่ไหน ก็หยุดแวะกดชัตเตอร์บันทึกไว้...
ในที่สุดผมก็ปั่นถึงสามแยก (K)...
คงเป็นเพราะมีนักท่องเที่ยวมาเป็นประจำ ที่ปั่นจักรยานมาก็คงมีไม่น้อย ชาวบ้านมองเห็นเป็นเรื่องปกติ นับว่าเป็นเรื่องดีที่ทำให้ผมเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย
นึกจะแวะถ่ายภาพตรงไหน...ก็ทำได้หมด!
ตลาดสดที่นี่เหมือนตลาดสันป่าข่อยเมื่อ ๕๐-๖๐ ปีที่แล้วเลย....
ผมไม่แปลกใจที่เห็นว่ามีคนเกาหลีแห่มาเที่ยวเขมร ดูจำนวนรถโดยสารนักท่องเที่ยวเมืองโสมก็รู้ครับ...
หมู่บ้าน Suwon ของเกาหลียกมาอยู่ที่นี่ ถึงกับตั้งป้ายให้เห็นชัดพร้อมทั้งอักษรขะแมร์และเกาหลี ที่เมืองไทยยังไม่มีอย่างเนี้ยใช่มั้ย? ผมเกรงเหลือเกินว่าอีกหน่อยในเมืองเชียงใหม่อาจมีหมู่บ้านชาวญี่ปุ่นตั้งป่าย (nihon go) แล้วบอกว่าคนไทยห้ามเข้า เห็นแล้วคงจะเจ็บปวดน่าดู! ยิ่งตอนนี้เขตเศรษฐกิจพิเศษทำท่าจะบูม อีกไม่นานอาจได้เห็น!
พูดไปก็ไลฟบอย ปวดหัวเปล่า ๆ หันไปดูทางขึ้นวัดปราสาท Phom Krom กันดีกว่า...
มีบันไดขึ้นไปยังยอดเขา (P) ถ้าขึ้นไปถึงข้างบนก็จะพบกับพระปรางค์ ๓ ยอด และหากอยู่ถึงเย็นก็จะได้ชมพระอาทิตย์ตก (sunset) ทางด้านโตนเลสาบซึ่งกล่าวว่างดงามที่สุด ผมต้องชั่งใจว่าจะเดินขึ้นบันไดไปปราสาทดีหรือไม่? เมื่อวานนี้ก็ไปเห็นปราสาทมาทั้งวันแล้วนะ หลับตาก็ยังเห็นภาพอยู่เลย แหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ตอนนี้แดดจัดมาก ถ้าจะขึ้นไปข้างบนก็ต้องทิ้งรถจักรยานไว้แล้วเดินขึ้นบันไดนั่นไป...
ตัดสินใจปั่นจักรยานเข้าไปเที่ยววัด (T) ในหมู่บ้าน Suwon ดีกว่า...
ปราสาท Phnom Krom ขอเอาไว้ไปเที่ยวพระปรางค์สามยอดจังหวัดลพบุรีแทนละกัน (ฮา)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น