ท่องเขมร ๒ ครั้ง ครั้งแรกไปพนมเปญ-พระตะบอง-ศรีโสภณ (ยังไม่ได้เขียน) ครั้งที่สองไปอยู่เสียมเรียบ ๔ วัน ๔ คืน (กำลังเขียน) อันที่จริงเขมรยังมีที่เที่ยวอีกมากมายหลายแห่ง แต่ผมก็แสดงเจตจำนงแล้วว่าจะไม่มีครั้งที่ ๓
ผมรังเกียจพฤติกรรมเจ้าหน้าที่ ตม. เขมร อย่างที่ได้เล่าไว้ในเรื่อง ช่องจอม – โอเสม็ด ว่า...
ผมขอการ์ดมากรอกแล้วยืนให้เจ้าหน้าที่ซึ่งนั่งอยู่ ๒ คน คนหนึ่งรับหนังสือเดินทางของผมไปเปิดดูตั้งแต่หน้าแรกถึงหน้าสุดท้ายด้วยท่าทางพิลึก ๆ ถามเป็นภาษาไทยว่า “ไปไหน?” ผมตอบว่า “ไปเสียมเรียบ” เค้าพลิกดูตราประทับประเทศต่าง ๆ บนหนังสือเดินทางของผม ดูเหมือนจะทำให้ช้าเข้าไว้ ต่างกับการประทับตราอย่างรวดเร็วให้หญิงขแมร์ก่อนหน้าผม…
“๑๐๐ บาท” เจ้าหน้าที่ ตม. เขมรออกปากเรียกเก็บเงิน! ผมเป็นงงเหมือนกันนะ เพราะตั้งแต่เดินทางผ่านแดนมาหลายต่อหลายด่านก็ยังไม่เคยโดนเรียกเก็บเงินอย่างเนี้ย อ่อ…เคยมี ๒ ครั้งที่ สปป.ลาว เป็นเงินค่าเหยียบแผ่นดินตอนเข้ามาจากเวียดนาม และค่าทำงานล่วงเวลาที่ด่านบ้านห้วยทราย แต่เค้าก็เรียกเป็นเงินกีบ และมีใบเสร็จออกให้ แต่ที่นี่ดูแปลก เรียกเป็นเงินบาทและไม่มีอะไรให้เป็นหลักฐาน คงไม่ใช่ค่าธรรมเนียมมั้ง!! หรืออาจเป็นค่าอำนวยความสะดวกก็ได้!ไม่ใช่ผมโดนคนเดียว บล็อกสองแรงน่อง ท่องโลกกว้าง ก็เล่าไว้ว่า...
เอาบัตรเข้าเมืองมากรอกแล้วไปยื่น ต.ม. ถาม Thailandia บอกเยส เค้าบอกว่า Thailandia จ่ายมา สองร้อยบาท จะบ้าเหรอ ฝรั่งไม่เห็นเห็นต้องจ่าย ถามไปว่าเป็นค่าอะไรก็ตอบไม่ได้แถมเนียนทำเป็นพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ซักไปซักมาเค้าบอกร้อยหนึ่งก็ได้ ค้นกระเป๋ามีเงินไทยอยู่ ๗๐ บาท ขอต่อเหลือ ๗๐ บาท จนท. ส่ายหัวดิก ไม่ได้ร้อยบาทไม่ให้เข้า เฮ้อ...ผีถึงป่าช้าแล้ว ไม่จ่ายก็ต้องดันเนินกลับตราด ก็เลยควักให้ไป ๑๐ เหรียญ จนท. ทอนให้ สองร้อยบาท คิดผิดนะนี่ที่ผ่านเขมร ครั้งแรกในชีวิตที่เดินทางเข้าเขมรก็เจอแบบนี้เลย..เดินทางออกจากเขมรก็โดนอีก เจ้าหน้าที่ ตม. ด่านปอยเปตขอเงิน ๒๐๐ บาท...แต่ผมไม่ให้
ไปมาไม่รู้กี่ประเทศ ก็ยังไม่เคยโดนเจ้าหน้าที่ ตม. เรียกเก็บเงินใต้โต๊ะ ทุกวันนี้ยังมีอีกหลายประเทศที่อยากไป แล้วใยจะต้องกลับไปกัมพูชาอีกล่ะ? วันนี้ขอเปลี่ยนบรรยากาศจากเขมรมาเป็นเมืองไทยสักหน่อย อยากพาเพื่อน ๆ ไปดู "วัดทองเหลือ" ที่ตำบลบ้านเกาะ อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์โน่น...
จากเทสโกโลตัส (1) ไปตามเส้นทางสู่วัดพระธาตุทุ่งยั้ง ประมาณ ๑ กิโลเมตรครึ่ง จะเห็นป้ายวัดทองเหลือ (3) อยู่ทางด้านซ้ายมือ...
มีทางเข้าอีกแห่งหนึ่ง (4) ตรงริมถนนด้านข้าง...
หนังสือพิมพ์คมชัดลึกได้เขียนไว้ว่า...
วัดทองเหลือเป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่งของจังหวัดอุตรดิตถ์ อยู่ห่างจากตัวเมืองอุตรดิตถ์ไปทางทิศตะวันตก บนถนนสายที่จะไปวัดพระแท่นศิลาอาสน์ มีหลักฐานถูกค้นพบว่า สร้างขึ้นในสมัยสุโขทัยคือ ประมาณกว่า ๖๐๐ปี มาแล้ว ทั้งนี้ได้ค้นพบซากศิลาแลงเป็นฐานสี่เหลี่ยมซ้อนกัน ๔ ชั้น ขุดพบโบราณวัตถุหลายชิ้นภายในวัดทองเหลือเมื่อวันที่ ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๒๒ ซึ่งเป็นวันเข้าพรรษา....
ผมต้องขออภัยที่ไม่สามารถเดินเก็บภาพได้อย่างถ้วนทั่ว เพราะเจ้า รปภ. ๔ ขาที่คอยปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่กำลังจ้องมองอยู่...
ได้แต่ซูมภาพด้านข้างพระอุโบสถมาพอให้เห็น...
ซุ้มไบเสมาสวยงามยิ่ง...
เท่าที่ผ่านมายังไม่เคยโดนหมาวัดกัด แต่ก็เสียวอยู่เหมือนกัน ต้องเซย์บ้ายบาย เอาไว้รอให้เพื่อน ๆ เป็นตัวแทนไปเก็บภาพเพิ่มเติมดีกว่า!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น