ผมเป็นคนที่ค่อนข้างแตกต่างกับนักท่องเที่ยวทั่วไปก็ว่าได้ ที่ไหนมีคนเยอะหรือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวมีชื่อเสียง...ผมกลับไม่อยากไป ใช่ว่าจะกลัวสิ้นเปลือง ตระหนักดีว่าเมื่อตั้งใจมาเที่ยวแล้วก็ต้องจ่าย อย่างเช่น การซื้อทัวร์ไปเที่ยวพระราชวังและสุสานในเมืองเว้ ไปปราสาทหมี่เซินในฮอยอัน หรือการเข้าชมพิพิธภัณฑ์ เป็นต้น แต่ช่วงที่กลับมาอยู่ฮานอย ผมมิได้สนใจจะซื้อทัวร์ไป "ฮาลองเบย์" เหมือนกับคนอื่น ๆ คิดว่าไม่น่าอายอะไร ถ้าหากมีคนถามถึงอ่าวฮาลองซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแล้วบอกว่าไม่ได้ไป!
มาเวียดนามผมอยากเห็นชีวิตของผู้คน อยากเห็นตลาด สถานีรถไฟ ถนนหนทาง วัดวาอาราม ฯลฯ มากกว่าชายหาดหรือท้องทะเลงดงาม ในเมืองที่มีบ้านเรือนและผู้คนมากมายอย่างในฮานอย แค่เดินไปเรื่อย ๆ ผมก็ได้เห็นภาพชีวิตที่ไม่ต้องจัดฉากหรือปิดบังสภาพที่แท้จริงอย่างคุ้มค่าแล้ว...
ทุกมุมมองมีสีสันให้ได้เห็นเป็นประสบการณ์...
จากทะเลสาบฮว่านเกี๋ยม (Hoan Kiem Lake) หรือทะเลสาบคืนดาบ (1) ผมได้แต่เดินไปเรื่อย ๆ ตั้งใจว่าจะไปสำรวจท่ารถเมล์ (4) สำหรับเดินทางไปสนามบินไว้ล่วงหน้า แล้วก็อยากแวะไปดูสถานีรถไฟ (2) ตลาดเก่า (3) ด้วย...
ย่านนี้เป็นย่านเมืองเก่า หรือที่รู้จักกันดีว่า "Hanoi Old Quarter" ถ้าเป็นกรุงเทพฯ ก็เหมือนเยาวราช...ไม่ใช่สีลม
มีหนูนอนตายอยู่บนทางเท้าเหมือนในโกตาบารู มาเลเซียเลย!
เดินเที่ยวสบาย ๆ ครับ...
เคยอ่านพบว่ามีนักท่องเที่ยวไทยบางคนถูกแท็กซี่โกง เมื่อว่าจ้างให้มาส่งที่ old quarter สำหรับผมแล้วไม่เคยเจอเพราะอาศัยเดินลูกเดียว เช่นเดียวกับ นักแบกเป้ฝรั่งส่วนใหญ่...
ผมย่ำต๊อกอยู่ได้ไม่นาน... ฝนก็เทลงมาเหมือนฟ้ารั่ว!
ต้องยืนหลบฝนอยู่หน้าร้านที่มีชายคายื่นออกมา หญิงเจ้าของร้านวัยกลางคนใจดีนำเก้าอี้พลาสติกตัวเตี้ยมาให้นั่งรอฝนหยุด ผมกดชัตเตอร์บันทึกภาพที่เห็นอยู่เบื้องหน้าอย่างมีความสุข จะมีอะไรดีกว่าการได้เห็นสภาพชีวิตที่แท้จริงของชาวเมืองฮานอย...
เมื่อเทวดาเห็นว่าพอ... ก็ปิดสวิชหยุดปล่อยน้ำฝน!
บนถนนที่ชุ่มชื้น ผู้คนออกสัญจรกันต่อไป...
"กาม เอิน" ผมขอบคุณเจ้าของเก้าอี้ แล้วออกก้าวเดิน...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น