วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2558

วัดสุพรรณรังษี ลำพูน

วัดสุพรรณรังษีอยู่ติดกับวัดพระธาตุหริภุญชัยหรือวัดหลวง...


เป็นวัดเล็กเนื้อที่ประมาณ ๒ ไร่ ตั้งอยู่เลขที่ ๒๐๕ ถนนชัยมงคล ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน  ศูนย์ข้อมูลกลางทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ให้ข้อมูลว่าวัดสุพรรณรังษีสร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๐ แต่เดิมเป็นวัดของพระสงฆ์ฝ่ายรามัญนิกายที่มีสัญชาติเป็นไทยใหญ่ (เงี้ยว) หรือพม่า เดิมมีชื่อว่าวัดมัณฑะเลย์ วัดนี้มีอุโบสถและเจดีย์แบบพม่า พร้อมพระพุทธรูปไม้ประทับยืนขนาดเท่าคนจริงปางห้ามสมุทร (ศิลปะแบบล้านนา)...


ก่อนไปวัดพระธาตุหริภุุญชัย... ขอพาเพื่อน ๆ แวะไปดูวัดสุพรรณรังษี!


ไม่ต้องผ่านซุ้มประตูโขงใหญ่โตเหมือนวัดส่วนใหญ่ ผมเดินเข้าประตู (1) ไปยังพระเจดีย์ (2)...


บันทึกภาพมาให้เพื่อน ๆ ได้ดู...








จากนั้นก็เดินไปยังอุโบสถ (3)...




ขัดตาตรงบานสวิงอลูมิเนียมซึ่งดูไม่ค่อยจะเข้ากันนัก...


ไม่เป็นไรครับ เป็นเรื่องของรสนิยมและความชอบของผู้รับผิดชอบดูแลศาสนสถาน...




ศาลาอเนกประสงค์ (5) หลังคาสีน้ำเงิน....


กุฎิสงฆ์ปิดเงียบ...


วัดสุพรรณรังษีมีดีตรงพระเจดีย์ ผมหวังว่าคงไม่มีใครคิดบูรณะด้วยการลงสีทองให้ดูใหม่เอี่ยมแบบวัดศรีหลวงแจ้ซ้อน!

วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2558

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ลำพูน


พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอยู่ที่ถนนอินทยงยศ ตรงข้ามกับวัดพระธาตุหริภุญชัย ผมอยากให้เพื่อน ๆ ได้แวะไปเยี่ยมชมครับ...


วัดพระธาตุหริภุญชัยเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว...


ระหว่างที่ผมใช้เวลาเกือบ ๑ ชั่วโมงอยู่ในพิพิธภัณฑสถานชาติ กลับไม่เห็นมีใครมาเข้าชม... ทั้ง ๆ ที่มีอะไรที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย!


เมื่อขี้นบันไดไปยืนอยู่ที่ประตูทางเข้า เห็นป้ายบอกว่าค่าเข้าชมสำหรับคนไทย ๒๐ บาทและชาวต่างชาติ ๑๐๐ บาท ผมถามก่อนว่าผู้สูงอายุต้องซื้อตั๋วหรือเปล่า?  เจ้าหน้าที่หญิงซึ่งอยู่ในเคาน์เตอร์ทางด้านซ้ายมือบอกด้วยเสียงสดใสว่า "เจินจ้าว...เข้าได้เลยจ้าว"  พร้อมกับชี้ให้ผมเข้าไปยังห้องที่มีของโบราณตั้งอย่างเป็นระเบียบงามตา!  ที่ข้างประตูมีป้ายห้ามสารพัดอย่าง...รวมทั้งห้ามถ่ายภาพ


อืมมม์... เหมือนกับพิพิธภัณฑ์ในกรุงพนมเปญเลย (แต่ที่นั่นผมเห็นมีบางคนยังคงถ่ายภาพกันอยู่นะ)  ผมเกิดคำถามว่าควรให้ถ่ายภาพในพิพิธภัณฑ์หรือไม่?  ในยุโรปเค้าอนุญาตให้ถ่ายภาพได้ เพียงแต่ห้ามใช้แฟลชเท่านั้น นี่คือตัวอย่างของภาพที่ผมบันทึกไว้...


พิพิธภัณฑ์ที่เชียงแสนก็ถ่ายภาพได้ ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ก็เช่นกัน แต่เมื่อที่นี่ห้าม...ผมก็ทำตามกฎระเบียบที่ตั้งไว้อย่างเคร่งครัด ได้แต่เดินชมและจดบันทึกลงสมุดด้วยลายมือไก่เขี่ย...


เค้าแบ่งออกเป็น ๓ ส่วนครับ ชั้นล่างมีเศียรพระ พระพุทธรูป พระเครื่อง เครื่องปั้นดินเผา ครก สาก ตะคันดินเผา กล้องยาสูบ ภาชนะดินเผา เครื่องประดับ ฯลฯ  และที่นอนอยู่ใกล้ทางเข้าคือ โครงกระดูกเพศชาย ๕๐๐ ปีก่อนพุทธกาล (เสียดายไม่มีภาพมาให้เพื่อน ๆ ดู) เจ้าหน้าที่หญิงใจดีบอกผมว่ายังมีอยู่ข้างบนอีก ๒ ห้อง  ผมเดินขึ้นบันไดไปก็พบกับสิ่งที่น่าสนใจมากมาย ได้ทราบด้วยว่าศาสนสถานยุคต้นแห่งเมืองหริภุญชัยที่อยู่ ๔ มุมเมืองประกอบด้วย  ๑. วัดดอนแก้ว + ต้นแก้ว  ๒. วัดพระคงฤาษี  ๓. วัดสังฆาราม และ ๔. วัดมหาวัน

จากส่วนที่ ๒ ต่อไปยังส่วนที่ ๓  มีอยู่ ๒ ห้องซ้ายขวา ชายคนหนึ่งนั่งเฝ้าอยู่ที่โต๊ะตรงกลาง  เขาเปิดพัดลมเป่าเสียงดังหึ่ง ๆ  คงจะไม่ค่อยมีผู้มาเยี่ยมชมสักเท่าใด ชีวิตแต่ละโมงยามที่ผ่านไปของเขาจึงดูเหมือนเนิ่นนานแลน่าเบื่อหน่าย!  ผมเดินดูด้านซ้ายก่อน มีคันทวย เครื่องถ้วยหริภุญชัย น้ำต้นลำพูน กาแล สัตตภัณฑ์ (แท่นเทียน) เครื่องถ้วยอันนัม เครื่องถ้วยพม่า เก้าอี้โบราณ นาฬิกา ผามลาง กระพรวนช้าง หำยนต์ สลุงหลวง ตุงกระด้าง งาช้าง และเครื่องเขิน ฯลฯ  มีเรือเก่า ๓ ลำตั้งอยู่ตรงกลาง...

ส่วนห้องด้านขวาแสดงศาสตราวุธโบราณ ประกอบด้วย หน้าไม้ ธนู มีดขอ ลูกดอก มีดดาบ ดาบซามูไร กระบี่มหาดเล็ก ตรีศูล ง้าว ทวน แหลน หอก ปืนคาบศิลา ปืนยาว ๕ นัด ปืนหามแล่น และปืนสั้นชนิดต่าง ๆ

ผมรู้สึกดีใจที่ได้มาเยือนพิพิธภัณฑสถานอันเป็นแหล่งเรียนรู้แห่งนี้ ขอขอบคุณผู้มีส่วนในการจัดตั้งและทำให้มันยืนอยู่คู่นครหริภุญชัยตลอดไป...

วันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2558

วัดชัยมงคล ลำพูน


"วัดชัยมงคล" (11) ตั้งอยู่ในนครหริภุญชัยหรือจังหวัดลำพูน วัดนี้มิได้อยู่ในรายชื่อที่เขียนไว้ในสมุดบันทึก จากตลาดสดหนองดอก (10) ผมเดินออกไปทางถนนวังซ้าย ซอย ๒ ทางด้านซ้ายมือเห็นห้องแถวไม้ประตูบานเฟี้ยม... 



ทะลุออกไปที่ถนนวังซ้าย ผมเห็นวัดสวยงามอยู่ตรงหัวมุม (11)...


อ่อ...วัดชัยมงคลนั่นเอง เนื่องจากเป็นวัดซึ่งมีพื้นที่ไม่มาก หน้าอุโบสถของวัดอยู่เกือบจะชิดติดรั้ว อันว่าชื่อ"วัดชัยมงคล"นั้นมีอยู่มากมายหลายวัด แต่ที่วัดนี้ผมไม่สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้อีก จึงมีแค่เพียงรูปภาพมาให้เพื่อน ๆ ดู








ใบเสมาดูอลังการ...


บันไดนาคมีราวจับสแตนเลส คงมีไว้สำหรับคนแก่ อิอิ...


ดวงตาสีเขียวปัด...คงอิจฉาที่เห็นตาแก่เมืองรถม้าที่ยังคงท่องเที่ยวไปได้ทั่ว...




ด้านหลังวิหารประดิษฐานพระเจดีย์ ตรงตามรูปแบบทั่วไปของวัดในล้านนา....




หอธรรมอยู่ตรงมุม...เห็นได้แต่ไกล!


ผมลั่นชัตเตอร์เก็บภาพอีก ๑ บ าน ก่อนหาทางไปยังพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ...


มานครหริภุญชัย...ไม่หลงแน่นอนครับ!

วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ตลาดสดหนองดอก ลำพูน


รถสามล้อยังมีให้เห็นอยู่ในเมืองลำพูน ผมเห็นมันวิ่งผ่านไปในขณะที่เดินออกจากอนุสาวรีย์พระนางจามเทวี ทำให้คิดถึงตอนที่แม่ปราณีนั่งสามล้อไปตลาดสันป่าข่อย...


ทราบมาแล้วว่ามีตลาดสดหนองดอก (10) อยู่หลังอนุสาวรีย์พระนางจามเทวี ผมเดินเข้าไปเยี่ยมชม เห็นว่ากว้างขวาง ดูสะอาด และเป็นระเบียบดีมาก...





ผักบุ้งสวย ๆ มัดละ ๕ บาทเอง...


ทีนี้ก็อยากจะพาเพื่อน ๆ หายตัวไปโผล่อยู่กลางตลาดสดในกรุงพนมเปญ ใกล้ ๆ กับ Velkommen Guesthouse ที่ผมพักอยู่ ๓ คืน....แล้วเดินดูว่าเค้ามีอะไรวางขายบ้าง


หมูเห็ดเป็ดไก่ก็มีวางจำหน่าย แต่ขอนำเฉพาะภาพผักหญ้าและผลไม้มาลง...













ว้าว...เห็นกล้วยแล้วอยากซื้อมาตากจัง!


ผักบุ้งก็งาม สายบัวก็น่ากิน...


ไม่รู้เหมือนกันว่าผักบุ้งเมืองหริภุญชัยกับเมืองพนมเปญ ใครจะถูกกว่ากัน?