วันก่อนโน้นเขียนเรื่อง Ferry to Penang ผมมีภาพประกอบไม่มาก เพราะผมเดินทางไปถึงที่ท่าเรือฝั่ง Butterworth ก็สองทุ่มกว่าแล้ว วันนี้ผมอยากจะเขียนต่ออีกนิด พร้อมกับภาพประกอบซึ่งได้ถ่ายไว้ขณะที่นั่งเรื่อข้ามฟากจาก George Town ไปยัง Butterworth…
วันที่ ๑๕ เมษายน ๒๕๕๒ เวลา ๑๐.๐๘ น. ผมบันทึกว่า “สาวอียิปต์ยังพักอยู่ต่อ…” เพื่อน ๆ ไม่ต้องสงสัยนะครับ ที่พักประเภทห้องรวม ราคาประหยัดส่วนใหญ่เค้าให้พักรวมกันทั้งผู้หญิงผู้ชาย อย่างใน KL ห้องเล็ก มีเตียงแบบสองชั้น ๔ เตียง ผมได้นอนชั้นล่าง ทางหัวนอนเป็นนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นอายุ ๖๐ กว่าแต่ยังแข็งแรง ส่วนที่นอนอยู่ข้างบนเป็นสาวจากอังกฤษ เวลาเค้าปีนขึ้นนอน เตียงโยกเยกเหมือนกับเรือโดนคลื่นซัด สำหรับ hostel ที่ผมพักในปีนัง ก็มีเตียงสองชั้น ๔ เตียงเช่นกัน เพียงแต่ว่าช่วงที่ผมไปพักมี hosteller แค่ ๓ คน แต่ละคนเลือกนอนชั้นล่าง สบายไป ไม่มีใครอายกันหรอกครับ…
ผมกำลังจะเดินทางออกจากเกาะปีนัง เพื่อขึ้นรถไฟจาก Butterworth ไปลงที่สถานีหัวลำโพง ซื้อตั๋วไว้เรียบร้อยแล้วครับ ก่อนออกจาก hostel ได้อ่านหนังสือพิมพ์ ผมบันทึกไว้ว่า “ได้ข่าวว่ากลุ่มเสื้อแดงยุติการ ชุมนุม – เดินทางกลับบ้านแล้ว ทุกอย่างกำลังเข้าสู่ภาวะปกติ….จึงไม่น่าเป็นห่วงเรื่องการเดินทางกลับบ้าน….”
ผมเดินแบกเป้ออกจากที่พัก อาการเจ็บหัวเข่าเริ่มทุเลาลง เดินเขยก ๆ ไปตามถนนมุ่งสู่ท่าเรือ ได้ยินเสียงหวูดเรือดัง “ปู้น ๆ” ผมไม่รีบร้อนเพราะทราบเวลาดี เดินไปร้านอาหารที่เคยไปกินเมื่อวันก่อนเห็นมีคนเยอะ จึงเปลี่ยนไปอีกร้านหนึ่งซึ่งอยู่ติดกัน สั่ง nasir gorang เค้าบอกว่าไม่มี จึงสั่ง nasir ayam ตามที่เห็นในป้าย พอคนขายยกมาให้ ก็เห็นว่ามันคือ “ข้าวมันไก่” บ้านเรานั่นเอง มีแตงกวา น้ำจิ้ม และซุปร้อน ๆ ให้ด้วย ผมไม่กินเนื้อไก่ จึงได้คว้าเอาไข่ต้มที่วางอยู่บนโต๊ะมากิน ๑ ลูก คนขายถามว่าดื่มอะไร ผมสั่ง Teh O Padas (ชาดำร้อน) มื้อนั้นผมจ่าย $5.80 หรือเท่ากับประมาณ ๖๐ บาท
อิ่มแล้ว ผมแบกเป้ออกเดินทางต่อ หยุดถ่ายรูปนกที่จับอยู่บนหลังคาทางขึ้น overpass ก่อนหนึ่งบาน…
เดินผ่านร้านค้าซึ่งอยู่ทางด้านซ้ายมือ ในขณะที่มุ่งหน้าไปลงเรือ
เดินไปเรื่อย ๆ ครับ….
MASUK แปลว่า “ทางเข้า” หรือ “enter” ครับ เราจะเห็นได้ตามสถานที่ต่าง ๆ
Backpacker คนที่เดินอยู่ข้างหน้าผม คงจะหนักน่าดูนิ ผู้หญิงนะนั่น!!
ผมมองลงไปข้างล่าง เห็นรถที่กำลังเคลื่อนตัวไปลงเรือข้ามฟาก…
นั่นไง ถึงทางเดินช่วงสุดท้ายแล้ว ไฟเขียวแสดงว่าเดินไปลงเรือได้ ขากลับไม่ต้องจ่ายตังค์นะครับ
ด้านขวามือ…ผมเห็นเรืออีกลำหนึ่งจอดเทียบท่าอยู่ หยุดถ่ายภาพไว้อีกบานนึง…
เอ้า….เดินลงไปได้ครึ่งทาง หยุดถ่ายรูปไว้อีก
เก็บภาพที่อยู่ทางด้านซ้ายมือ….
กล้องราคาพันกว่าบาทสามารถทำหน้าที่ของมันได้อย่างดีเยี่ยม…คุ้มจริง ๆ ครับ
ถ่ายรูปไป ใจก็นึกว่าคงจะได้กลับมายืนดูภาพอย่างนี้อีก ไม่วันใดก็วันหนึ่ง ตราบใดที่ยังมีฝันของนักเดินทาง…
ลงเรือแล้ว… แต่ต้องรอให้ถึงเวลาก่อน
มีเวลาให้ผมถ่ายภาพได้อีกหลายบาน…
ถ่ายแม้แต่ถังขยะ ผมชอบถ่ายเป็นประจำอยู่แล้ว ไปที่ไหนก็มองหาแต่ถังขยะ อิอิ
ส้วมก็เช่นกัน เป็นสถานที่ผมชอบถ่าย(ภาพ)อยู่เสมอ…
เรือเคลื่อนตัวออกจากท่าเมื่อเวลา ๑๒.๓๗ น.
ลาก่อนเกาะปีนังที่รัก แล้วจะกลับไปเยี่ยมเยียนอีกนะ….
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น