วันพฤหัสบดีที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

สำรวจวัดยางอ้อย

มาคุยเรื่องวัดยางอ้อยต่อนะครับ ผมสัญญาแล้วว่าจะนำภาพวัดยางอ้อยชุดล่าสุดมาแบ่งปันให้เพื่อน ๆ ได้ชม...

ก่อนอื่นอยากจะพูดเรื่องชื่อก่อน ผมเป็นคนชอบจินตนาการภาพคนโบราณเวลาเค้าตั้งชื่อสถานที่ เครื่องไม้เครื่องมือ ยานพาหนะ หรืออะไรต่อมิอะไร มักจะชื่นชมภูมิปัญญาของผู้คนในอดีตที่ช่างสรรหาคำบรรยายมาใช้ได้อย่างดีเยี่ยม เพียงแต่เสียดายว่าปัจจุบันนี้...คนรุ่นใหม่ไม่นิยมพูดภาษาท้องถิ่นกันแล้ว

อย่างเช่นคำเมืองว่า "ฮูดัง" ใช้เรียก "จมูก" นั้นให้ภาพชัดเจน...ก็มันเป็นรู หายใจเข้าออกแรง ๆ แล้วมันดัง!  หรืออย่างที่คนลาวเรียกรถไฟว่า "ห้องแถวไหล" ผมเคยเอาไปพูดกับคนลาวรุ่นใหม่ เขาไม่ใช้กัน...

ทีนี้มาถึงคำว่า "ยางอ้อย" ซึ่งเป็นชื่อทั้งหมู่บ้านและชื่อวัด ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าทำไมถึงชื่อยางอ้อย?  อ้อยมียางเหมือนกับยางขนุนด้วยหรือ?  หรือว่าจะเป็นหมู่บ้านที่ปลูกยางพาราและอ้อยเต็มไปหมด ก็ไม่น่าจะเข้ากันได้?  ในที่สุดก็ได้คำตอบเมื่อเข้าไปค้นหาในอินเทอร์เน็ต!  เว็บtemplethailand.org กล่าวว่า เดิมทีมีชนเผ่ายางได้อพยพมาจากดอยมาถึงบริเวณหนองม้า เห็นมีสัตว์และทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ จึงได้สร้างหลักปักฐานอาศัยอยู่และทำการเกษตรปลูกอ้อย จึงเป็นที่มาของคำว่า "ยางอ้อย" ผมคิดว่าชื่อวัดก็น่าจะมาจากชื่อหมู่บ้านนั้นแล ไม่รู้หละ...ผมได้ปั่นจักรยานกลับมาเยือนเป็นครั้งที่สองแล้ว

วงเวียนแบบประหยัดงบตั้งสงบอยู่กลางสามแยก...บอกผมว่ามาถึงแล้ว
 

ด้านขวามือคือวัดยางอ้อย ดีจัง...ยังไม่คิดสร้างซุ้มประตูโขงแข่งกับวัดอื่น!

ขออนุญาตท่านสิงห์ผู้ไม่แยแส...จอดจักรยานไว้ใกล้ ๆ



ดวงตาท่านไม่ค่อยสดใสเอาซะเลย?


ว้าว... มีผู้มาต้อนรับด้วยหรือเนี่ย?

 

ตาแก่เมืองรถม้ามองเห็นอุโบสถหลังเก่าตั้งอยู่ที่เดิม (อิอิ ใครจะมาย้ายได้ นอกจากยักษ์) ส่วนวิหารหลังใหม่สร้างเสร็จเมื่อไหร่ไม่รู้...ตั้งอยู่ใกล้ ๆ 

 
ไม่เห็นต้นอ้อยซักกะต้น มีแต่ไม้ดอกไม้ประดับดูงดงาม...





 

ชอบใจ...วัดที่มีแผนผังบอกชัด!

 

เพื่อน ๆ  คงไม่ขัด ถ้าผมจะเริ่มสำรวจอุโบสถก่อนเลย!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น