มาคุยเรื่องวัดยางอ้อยต่อนะครับ ผมสัญญาแล้วว่าจะนำภาพวัดยางอ้อยชุดล่าสุดมาแบ่งปันให้เพื่อน ๆ ได้ชม...
ก่อนอื่นอยากจะพูดเรื่องชื่อก่อน ผมเป็นคนชอบจินตนาการภาพคนโบราณเวลาเค้าตั้งชื่อสถานที่ เครื่องไม้เครื่องมือ ยานพาหนะ หรืออะไรต่อมิอะไร มักจะชื่นชมภูมิปัญญาของผู้คนในอดีตที่ช่างสรรหาคำบรรยายมาใช้ได้อย่างดีเยี่ยม เพียงแต่เสียดายว่าปัจจุบันนี้...คนรุ่นใหม่ไม่นิยมพูดภาษาท้องถิ่นกันแล้ว
อย่างเช่นคำเมืองว่า "ฮูดัง" ใช้เรียก "จมูก" นั้นให้ภาพชัดเจน...ก็มันเป็นรู หายใจเข้าออกแรง ๆ แล้วมันดัง! หรืออย่างที่คนลาวเรียกรถไฟว่า "ห้องแถวไหล" ผมเคยเอาไปพูดกับคนลาวรุ่นใหม่ เขาไม่ใช้กัน...
ทีนี้มาถึงคำว่า "ยางอ้อย" ซึ่งเป็นชื่อทั้งหมู่บ้านและชื่อวัด ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าทำไมถึงชื่อยางอ้อย? อ้อยมียางเหมือนกับยางขนุนด้วยหรือ? หรือว่าจะเป็นหมู่บ้านที่ปลูกยางพาราและอ้อยเต็มไปหมด ก็ไม่น่าจะเข้ากันได้? ในที่สุดก็ได้คำตอบเมื่อเข้าไปค้นหาในอินเทอร์เน็ต! เว็บtemplethailand.org กล่าวว่า เดิมทีมีชนเผ่ายางได้อพยพมาจากดอยมาถึงบริเวณหนองม้า เห็นมีสัตว์และทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ จึงได้สร้างหลักปักฐานอาศัยอยู่และทำการเกษตรปลูกอ้อย จึงเป็นที่มาของคำว่า "ยางอ้อย" ผมคิดว่าชื่อวัดก็น่าจะมาจากชื่อหมู่บ้านนั้นแล ไม่รู้หละ...ผมได้ปั่นจักรยานกลับมาเยือนเป็นครั้งที่สองแล้วด้านขวามือคือวัดยางอ้อย ดีจัง...ยังไม่คิดสร้างซุ้มประตูโขงแข่งกับวัดอื่น!
ขออนุญาตท่านสิงห์ผู้ไม่แยแส...จอดจักรยานไว้ใกล้ ๆ
ดวงตาท่านไม่ค่อยสดใสเอาซะเลย?
ว้าว... มีผู้มาต้อนรับด้วยหรือเนี่ย?
ตาแก่เมืองรถม้ามองเห็นอุโบสถหลังเก่าตั้งอยู่ที่เดิม (อิอิ ใครจะมาย้ายได้ นอกจากยักษ์) ส่วนวิหารหลังใหม่สร้างเสร็จเมื่อไหร่ไม่รู้...ตั้งอยู่ใกล้ ๆ
ชอบใจ...วัดที่มีแผนผังบอกชัด!
เพื่อน ๆ คงไม่ขัด ถ้าผมจะเริ่มสำรวจอุโบสถก่อนเลย!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น