เพื่อน ๆ ที่รักครับ... สมัยนี้คนไทยไปต่างประเทศไม่ง่ายเหมือนเมื่อ ๓๐ ปีที่แล้วจริง ๆ นะ!
แต่ก่อนผู้โดยสารซื้อตั๋วเครื่องบินสามารถ open วันเดินทางกลับได้ (ยังไม่ต้องระบุ) ต่างกับทุกวันนี้ซึ่งเห็นบอกว่าต้องกำหนดวันกลับไว้ก่อน ถ้าจะเลื่อนเป็นวันอื่นก็ค่อยแจ้งทีหลัง และดูเหมือนว่าต้องจ่ายค่าธรรมเนียมด้วย
เคยซื้อตั๋วเครื่องบินไปกลับสิงคโปร์-ซิดนี่ย์ เป็นตั๋วอายุ ๑ ปี แล้ว open ขากลับไว้ ผมเที่ยวเมืองจิงโจ้ไปเรื่อย ๆ พอนึกอยากกลับบ้าน ก็แวะไปที่ทำการของสายการบินนั้นเพื่อ confirm วันบินกลับ ทุกอย่างง่ายมาก...ไม่ต้องมีพิธีรีตอง แต่เดี๋ยวนี้การเดินทางไปเมืองนอกยุ่งยากกว่าเดิม คนรุ่นใหม่อาจไม่ทราบ
ไปญี่ปุ่นแม้ไม่ต้องใช้วีซ่า แต่ก็อยู่ได้แค่ ๒ อาทิตย์ แล้วต้องแสดงตั๋วเครื่องบินที่มีกำหนดเวลากลับไว้อย่างแน่ชัด ที่สนามบินเค้ามีสิทธิ์ไม่ให้เข้าประเทศ หุหุ...ผมไม่อยากไปญี่ปุ่น เสียค่าตั๋วเครื่องบินเป็นหมื่นแล้วเที่ยวได้แค่นั้น สู้แบกเป้ไปนอนตีพุงบนดอยขุนตานดีฝ่า!
จากดอนเมืองผมเคยบินไปไซ่ง่อนหรือนครโฮจิมินห์กับแอร์เอเซีย มีตั๋วโดยสารเที่ยวเดียว (คิดว่าจะเดินทางกลับทางบกเข้าประเทศกัมพูชาแล้วกลับไทยทางอรัญประเทศ) คนอื่นได้ขึ้นเครื่องกันหมด แม่เสือเสื้อแดงกักผมไว้เป็นคนสุดท้ายแล้วโทรแจ้งเจ้านาย บอกว่าเป็นกฏ ต้องมีตั๋วไป-กลับ เธอขู่ผมว่าถ้าทางเวียดนามส่งตัวกลับจะต้องจ่ายเงินทุกบาททุกสตางค์เอง ไปเสี่ยงเอาก็แล้วกัน!
เพื่อน ๆ เห็นมั้ยครับว่าการที่เราเลือกเดินทางเอง ไม่ว่าจะแบบไหน? หรืออย่างไร? มันมิได้ง่ายเหมือนแต่ก่อน ยกตัวอย่างเช่นประเทศเยอรมัน เคยนั่งเรือจากกรีกไปอิตาลี-สวิตเซอร์แลนด์-และเยอรมัน ผมมีแค่วีซ่าอิตาลี เจ้าหน้าตรวจหนังสือเดินทางเปิดคู่มือดูว่ามีประเทศไหนที่คนไทยไม่ต้องใช้วีซ่า ก็เห็นเค้าประทับตราให้ โดยไม่หาเรื่องกักตัวเราไว้เหมือนเป็นเช่นอาชญากรข้ามชาติอะไรเลย! ในอดีตขอให้มีเงินทุนในการเดินทางพอประมาณ มีหนังสือเดินทาง มีหลักฐานพร้อม (ประเทศไหนใช้วีซ่าก็เตรียมไปหรือไม่ก็ไปขอเอาข้างหน้า) ก็ใช้ได้แล้ว
ผมนั่งเรือจากเบลเยี่ยมข้ามช่องแคบไปขึ้นที่ Dover ประเทศอังกฤษ ขอวีซ่าไปเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ด่านโดเวอร์เพียงขอดูเงินสดที่ติดตัวไป แม้จะไม่มาก ก็ยังให้ผมผ่านเข้าอังกฤษได้สบาย ๆ
แล้วเพื่อน ๆ ทราบด้วยมั้ยครับว่าก่อนนี้คนไทยไปนิวซีแลนด์ก็ไม่ต้องใช้วีซ่าเช่นเดียวกับเยอรมัน?
การยื่นขอวีซ่าสำหรับประเทศที่ต้องใช้วีซ่าก็ทำได้ง่าย สมัยก่อนไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมเป็นพัน ๆ บาท ปัจจุบันนี้ค่าธรรมเนียมวีซ่าแพงมาก ปากีสถาน ๑,๗๐๐ บาท พม่าขึ้นราคาอีกเท่าตัว (แม้ว่าบินไป-กลับ ๑๕ วันไม่ต้องใช้วีซ่า)
วันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๒๘ ผมยืนอยู่ที่ Quaid-e-Azam`s Mausoleum เมืองการาจี ประเทศปากีสถาน...
ก่อนหน้านั้นได้รับแผ่นพับจากการท่องเที่ยวปากีสถาน วันนี้ขอนำมาให้เพื่อน ๆ ดูดังนี้...
อยากให้อ่านตรงนี้...
บนแผ่นพับอายุ ๓๔ ปียังเขียนอีกว่า
If you are motoring in from Iran, a724 km journey will take you from the border post to Quetta. The road from Quetta branches at Rohri 400 km for Lahore and Karachi....เห็นมั้ยครับ? ว่าการเปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวเป็นสิ่งที่แต่ละประเทศควรทำ! ต้องให้สิทธินักเดินทางเข้าออกทางถนนหนทางด้วย มิใช่ต้อนให้เข้าประเทศแต่ทางเครื่องบินอย่างเดียว
And if you are motoring to or from India, the India-Pakistan border at Wagah will lead you in or out of Pakistan.....
ถนนหนทางเชื่อมต่อทุกแห่งหน แต่หัวใจบางคนถูกกีดกันด้วยกฎระเบียบที่เพื่อนมนุษย์ตั้งขึ้นมา!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น