ที่มะละกา... ผมขี่จักรยานวนเวียนอยู่แถว ๆ World Heritage site พยายามมองหาอะไรที่ทำให้หวนคิดถึงภาพที่สวยงามในอดีต อนิจจา! ผมเห็นแต่รถและผู้คน!
ภาพจาก google street view |
บนถนนคนเดินบริเวณหน้าโบสถ์คริสต์มะละกา (Christ Church Melaka) ซึ่งในอดีตผมเคยเดินแบบสบาย ๆ แต่วันนี้ต้องหลบหลีกผู้คน กลัวว่าจะชนกัน (ภาษาลาวว่า..ต๋ำกั๋น) ในที่สุดก็ต้องบอกตัวเองว่า "กลับดีฝ่า!" ผมแวะถามชายมาเลย์เชื้อสายจีนคนหนึ่งถึง bus station เค้าแปลกใจ พูดว่า "ยูไม่มี GPS เรอะ?" หุหุ ตาแก่จากเมืองรถม้าจะไปมีได้อย่างไร? ไม่เป็นไร...ผมปั่นจักรยานตามเส้นทางที่ชายใจดีบอก ผ่านบ้านเมืองและการจราจรที่แออัดหลายกิโลเมตรอยู่เหมือนกัน
ในที่สุดก็ถึงสถานีขนส่งขนาดใหญ่ซึ่งใน google maps เขียนว่าเป็น "Melaka Sentral"
จำได้ว่าแต่ก่อนผมนั่งรถบัสมาถึงมะละกา เค้าจอดส่งที่สถานีขนส่งเล็ก ๆ (เหมือนกับที่เร็ว ๆ นี้เคยเห็นในเขมร) แต่ที่สถานีขนส่งมะละกามันช่างใหญ่โตเหลือเกิน!
เดินดูตามช่องจำหน่ายตั๋วภายในอาคาร พบว่ามีรถกลางคืนวิ่งจากมะละกาไปรันเตาปันจัง ผมซื้อตั๋วเลยครับ! แม้ว่าจะต้องนั่งรออีกเกือบ ๓ ชั่วโมง พอรถเข้าเทียบชานชาลา เค้าเปิดใต้ท้องรถ ผมก็นำเจ้า Banian เข้าเก็บด้วยตนเอง
รถออกแล้วจ้า...
วิ่งจากมะละกา (M) ไปสุดระยะที่รันเตาปันจัง (R) ระยะทาง ๕๕๒ กิโลเมตร อากู๋บอกว่ารถยนต์วิ่งประมาณ ๘ ชั่วโมง แต่รถโดยสารใช้เวลามากกว่านั้น...
ได้ที่นั่งด้านหลัง...ผมนั่งหลับตลอดทางด้วยเชื่อมั่นในความปลอดภัย ไม่มีการลงจากรถ...มาตื่นอีกทีก็ประมาณตี ๔ พบว่ารถกำลังจอดอยู่ ผมไม่เห็นคนขับ เหลือแต่ผู้โดยสารไม่กี่คนบนรถ ฝรั่งแก่ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ โวยวายเสียงลั่นว่า "Anybody speak English (บ้างวะ)???" แต่ไม่มีเสียงตอบ ผมก็ปิดปากเงียบ คิดว่ารถวิ่งมาถึงสถานีขนส่งโกตาบารู (K) แล้วล่ะ แต่ก็ไม่แน่ใจเพราะข้างนอกยังมืดอยู่ เปิดตาดูแบบสลึมสลือ...เห็นแกหอบสัมภาระเดินลงรถไปแบบทุลักทุเล คงจะตีตั๋วมาลงโกตาบารู (K) แต่ไม่มีใครบอกเมื่อถึงจุดหมาย สำหรับผมนั้น สบม. (สบายมาก) เพราะไปลงปลายทางที่รันเตาปันจัง (R) ซึ่งรถต้องวิ่งอีก ๔๒ กิโลเมตร...
ประมาณตี ๕ เห็นจะได้... รถเข้าจอดที่สถานีขนส่งรันเตาปันจัง
ดับเครื่องแล้ว คนขับหายไปเลย รู้สึกว่าผมจะลงจากรถเป็นคนสุดท้าย...
หอบหิ้วสัมภาระลงมาจากรถ (ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่หลงลืมอะไร) ผมเห็นช่องเก็บของใต้ท้องรถเปิดอยู่แล้ว เหลือแต่จักรยานของผมเพียงคันเดียว...รีบนำมันลงมาทันที
เช้านี้มีฝนตก พื้นถนนยังเปียกอยู่เลย... ผมถ่ายภาพรอบ ๆ ข้างไว้ ๒-๓ บาน
ปั่นออกจากสถานีขนส่ง (1) แวะร้านขายของชำทางด้านซ้ายมือ (2) ซื้อแลคตาซอย ๑ กล่องและน้ำ ๑ ขวด ยืนดื่มที่หน้าร้านจนหมด จากนั้นใช้เวลาไม่นานในการผ่านด่านมาเลเซียและด่านไทย...ผมปั่นจักรยานถึงตลาดสดเทศบาลเมืองสุกไหงโก-ลก (3) เวลา ๗ โมงตรง!
แวะซื้อผัดหมี่และขนม (อีตุย) ไว้เป็นอาหารเช้า...
เข้ามาถึงชานชาลาสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก (4) เวลา ๐๗.๑๙ น.
ซื้อตั๋วรอไว้แล้ว พอรถไฟเข้าเทียบชานชาลา ผมก็นำจักรยานขึ้นเก็บตามที่มีประสบการณ์ มัดไว้จนแน่ใจว่าตลอดระยะทาง ๑ พันกว่ากิโลเมตรจากสุไหงโก-ลกถึงกรุงเทพฯ คงไม่หล่นลงมาโดนหัวผู้คน
ตามกำหนดขบวนรถเร็ว 172 ออกจากสุไหงโก-ลกเวลา ๑๑.๓๐ น. ถึงกรุงเทพฯ เวลา ๐๙.๑๕ น. แต่คราวนี้รถเสียเวลา ถึงสถานีหัวลำโพงก็เกือบเที่ยงวัน!
จบแล้วครับ "FB Trip ไปมะละกา!" ขอขอบคุณเพื่อน ๆ ที่ติดตามอ่าน...