วันพฤหัสบดีที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2565

มกรคายนาควัดทุ่งตุ่น-แม่ติว

วิหารวัดทุ่งตุ่น-แม่ติวมีบันไดมกรคายนาค ๗ ขั้นขึ้นสู่มุขโถงด้านหน้า...
 
 
วิหารใช้เวลาก่อสร้าง ๑๐ ปี แล้วเสร็จเมื่อวันที่ ๘ มีนาคม ๒๕๔๘
 
 
 
วันที่ ๒ มีนาคม ๒๕๖๕ ได้มาเยือนและบันทึกภาพวิหารอายุ ๑๗ ปี ถ้าเปรียบกับคนเราก็เพิ่งพ้นสถานะเด็กชายเด็กหญิงได้ไม่นาน ผมเห็นช่อฟ้าใบระกาแลหน้าบันยังคงดูสดสวยงดงาม...
 
 
 
ทั้งมกรและนาคาหันหน้ารับแสงแดดทั้งวัน ไหนเลยจะโดนฝนกรดราดรดเรื่อยมา ฟันฟางและสายตาน่าจะเสื่อมโทรมลงบ้างตามกาลเวลา งั้นเรามาตรวจเช็คกันหน่อย เริ่มที่ท่านมกรก่อนเลย... 

 

ดวงตาแจ่มใสน่าจะใช้งานได้อีกนาน...

ฟันก็อยู่ครบ ยังไม่ต้องขูดหินปูน

ส่วนท่านนาคาตาคมทั้งซ้ายขวา หากทันตแพทย์ได้เห็นฟันคงบอกว่าโอ...


หรืออาจออกใบนัดให้ไปขูดหินปูน แต่ยังสงสัยอยู่ว่าจะไปได้อย่างไร? สำตัวมกรเล่นติดอยู่กับราวบันไดซะอย่างนั้น!

ส่วนหางก็ยึดติดแน่นอยู่กับเสาวิหาร...


อีกร้อยปีค่อยตรวจอีกทีละกัน!

วันพุธที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2565

พระเจดีย์วัดทุ่งตุ่น-แม่ติว

นมัสเต...มาดูพระเจดีย์วัดทุ่งตุ่น-แม่ติว (5) กันนะครับ! 
 
 
พระเจดีย์ (5) ตั้งอยู่ตรงมุมรั้ว ข้างวิหาร (4) ด้านทิศเหนือ 
 
 
ภายในกำแพงแก้วซึ่งมีฉัตรทองตั้งสูงอยู่ทั้ง ๔ มุม...
 

 
แหงนหน้าขึ้นดูยอดเจดีย์ทรงระฆังคว่ำบนฐานย่อเก็จ...ผมเก็บภาพมาฝากเพื่อน ๆ แล้วดังนี้
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 


กำแพงแก้วทำเป็นช่อง ๆ มีซุ้มซีเมนต์เล็ก ๆ คล้ายซุ้มเสมา แต่ข้างในกลายเป็นหลอดไฟ LED ส่องสว่างให้กับเทวดาผู้ปกป้องรักษาองค์พระเจดีย์สีทอง....


  
 
 
ยามค่ำคืนประทีบโคมไฟคงทำให้พระเจดีย์ดูสว่างไสวงดงาม!

ภาพเก็บตกวัดสถานีรถไฟห้างฉัตร

ผมชักจะเริ่มสงสัย...และไม่แน่ใจว่า หากเกิดสงครามล้างโลกหรือมหันตภัยไร้การปกป้อง ไฟล์ต่าง ๆ ที่สำรองเก็บไว้ใน cyber world จะยังหลงเหลืออยู่หรือไม่?

แล้วภาพอย่างที่ผมบันทึกมาจากวัดสถานีรถไฟห้างฉัตรใน Google จะยังคงเหลือให้สำหรับคนรุ่นหลังที่ยังมีชีวิตรอดอยู่ในโลกใบนี้อีกหรือเปล่า? ถึงวันนั้นศาลาหลังงามที่เคยเห็นอาจไม่หลงเหลือแม้แต่ซาก...

 

สิงห์ที่ประตูทางเข้าอาจไม่ได้นั่งอ้าปากคอยเฝ้าวัดอีกต่อไป!

 

หลังจากขั้วโลกขยับสลับตำแหน่ง ท้องฟ้าเหนือเมืองไทยหรือเหนือบ้านห้างฉัตรอาจเปลี่ยนไป ไม่สดสวยเหมือนดั่งที่ผมเห็นในวันนี้...

 

สรรพสิ่งเปลี่ยนแปลง แสงเงาอาจไม่เป็นไปอย่างที่หวัง...

 

 

แต่ละปีผ่านไป นักษัตรอาจกลายเป็นแค่เพียงเรื่องเล่าในอดีต...

 
 
ขอฝากภาพเก็บตกไว้อีกหน่อยนะครับ...
 


 










นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา....



แล้วไฟล์ภาพเก็บตกของผมจะอยู่รอดปลอดภัยมั้ยเนี่ย?

just a glance

ดูเหมือนว่าพักนี้ผมจะพาเจ้าแชมป์ออกเที่ยวชมวิวทิวทัศน์และวัดวาอารามมากขึ้น!
 
 
ปั่นเบาแรงครับ แปลกจัง! ทั้ง ๆ ที่เป็นเฟรมเหล็กมีน้ำหนักมากกว่าเพื่อน ผมแค่ควงขาไปเรื่อย ๆ รถก็วิ่ง ๑๕-๒๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง จุดหมายปลายทางห่างจากบ้านแค่ ๑๐ กว่ากิโลเมตร...ไม่นานก็ถึงแล้ว!
 
 
 
ถนนหนทางในชนบทดีจนน่าจะเป็นที่อิจฉาของประเทศเพื่อนบ้าน... ขับขี่สบายจริง ๆ ครับ นาน ๆ จะมีรถสวนมาสักคัน ยิ่งช่วงโควิดและเศรษฐกิจพัง ถนนที่สร้างเตรียมไว้เป็นอย่างดีแทบไม่มีรถวิ่ง!
 
 
 
แต่ละหมู่บ้านในอำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง นอกจากจะได้ถนนดี ๆ แล้ว ยังมีงบประมาณเหลือเฟือสำหรับสร้างซุ้มประตูและป้ายตั้งขึ้นไว้เป็นหน้าเป็นตา...
 



ในที่สุดก็หาเจอทางไปวัดทุ่งตุ่น-แม่ติว... นอกจากจะได้ไปถ่ายภาพวัดแล้ว ผมยังได้ชื่นชมกับบรรกาศท้องทุ่งริมทาง





 
 
  
 
Just a glance, I found that living close to nature is beyond any luxurious life of the rich.