วันอังคารที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2568

ป่าเห้ว

ปั่นจักรยานไปดอยฮางโดยไม่มีเครื่องมือนำทางอีเลคทรอนิคส์ ผมอาศัยปากสอบถามผู้คนไปเรื่อย ๆ บางครั้งก็ทำให้สับสนและหลงทางได้เหมือนกัน!
 
 
แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นเป็นกำไร คือ ทำให้ผมได้สัมผัสมธุรสวาจาและน้ำใจอันไม่เหือดแห้งจากผู้คนในชนบท... เป็นเสน่ห์ของท้องถิ่นซึ่งหาได้ยากแล้วในเมืองหลวง ที่นี่ไม่มีใครมองตาแก่หนวดเคราขาวสวมกางเกงสะดอที่จอดรถถามเส้นทางด้วยสายตาเกลียดชังเลยแม้แต่น้อย รอยยิ้มและคำตอบทำให้คนขี่จักรยานเดินทางต่อไปอย่างมีความสุข...
 
 
บางครั้งก็โชคดีได้เจอของกินราคาถูก...  
 
 

ได้พบเพื่อนสี่ขาน่ารักด้วย! (บอกตัวเองว่าคราวหน้าต้องพกอาหารเม็ดของอู่หลงที่เหลืออยู่ติดเป้มาด้วย)...
 
 
 
การเดินทางเป็นการเรียนรู้อย่างหนึ่งซึ่งสัจจธรรม บนทางหลวงชนบทหากได้เจอฌาปนสถานหรือที่คำเมืองเรียกว่า "ป่าเฮ่ว" หรือ "ป่าเห้ว" ผมมักไม่ลังเลที่จะแวะจอดพักรถและเก็บภาพ ส่วนใหญ่มักไร้ผู้คน มีแต่ความวังเวงและบทเรียนสอนให้เห็นซึ่งคติธรรม...
 





 
 
 
ดิน น้ำ ลม ไฟ แค่เกิดมาแล้วก็จากไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น