แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ พระนางจามเทวี แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ พระนางจามเทวี แสดงบทความทั้งหมด

วันศุกร์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2563

วัดพระพุทธบาทผาผึ้ง อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน

บนทางหลวงหมายเลข 1087... จากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติแม่ปิง ผมปั่นจักรยานมาแวะดื่มกาแฟร้อนและน้ำเย็น ๆ ที่ด่านอีกครั้ง 


ได้คุยกับเจ้าหน้าที่ท่านหนึ่ง ผมสอบถามเรื่องเส้นทางไปวัดพระพุทธบาทห้วยต้มบอกว่าอยากจะแวะเยือนก่อนปั่นจักรยานไปร่วมสวดมนต์ข้ามปีและถือโอกาสค้างคืนที่วัดพระธาตุห้าดวง



ได้รับคำตอบว่า จากด่านตรวจ (CP) ต้องปั่นไปไกลอยู่เหมือนกัน (ประมาณเกือบ ๑๐ กิโลเมตร) ด้านขวามือ (W3) จะพบถนนเข้าไปยังพระพุทธบาทห้วยต้ม....



เว็บ lamphun.go.th กล่าวว่า...
วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ซึ่งเป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดในอำเภอลี้ และเป็นวัดประจำหมู่บ้านของชาวปาเกอะญอ เป็นศาสนสถานที่สำคัญ ศูนย์รวมจิตใจของคนในชุมชนห้วยต้ม ภายในมีเอกลักษณ์ที่สวยงามด้วยเอกลักษณ์ล้านนา องค์พระธาตุได้รับการตกแต่งอย่างงดงาม เป็นสถานที่บรรจุสรีระทิพย์ของหลวงปู่ครูบาชัยวงศาพัฒนา...
ผมคิดว่าน่าจะมีเวลากว่า ๒ ชั่วโมงที่จะได้แวะชมวัดพระพุทธบาทห้วยต้ม แล้วค่อยปั่นจักรยานไปให้ถึงวัดพระธาตุห้าดวงก่อนพระอาทิตย์ตกดิน



นอกจากนั้น ตาแก่เมืองรถม้ายังได้รับคำแนะนำให้แวะชมวัดพระพุทธบาทผาผึ้งซึ่งอยู่ข้างหน้าเสียก่อน...



ออกจากด่าน...ผมปั่นจักรยานนิดเดียว ก็เห็นทางเข้าวัดพระพุทธบาทผาผึ้งทางด้านซ้ายมือ (W)...



ขี่จักรยานเข้าไปตามถนนลูกรัง หยุดถ่ายรูปเจ้า Banian กับสิงห์คู่ที่ประตูทางเข้า (1) ไว้หน่อย...




นำจักรยานไปจอดพิงต้นไม้ (2) ไว้



เดินเก็บภาพมาฝากเพื่อน ๆ แล้วดังนี้...



 

วิหารพระนางเจ้าจามเทวีตั้งอยู่ไม่ไกลวิหาร















อาคารไม้ดูคล้ายศาลาการเปรียญของวัดในภาคกลาง...





เงียบสงบ ปราศจากมลภาวะใด ๆ.... ที่นี่คือวัดพระพุทธบาทผาผึ้ง!

วันจันทร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2562

ภาพเก็บตกที่พระธาตุแม่ยิ่ง

ชีวิตมนุษย์เปรียบประดุจใบไม้ร่วง อีกไม่นานผมก็คงเป็นเช่นนี้...


คิดว่าการที่ผมใช้ชีวิตบั้นปลายมาเก็บภาพพระธาตุเจดีย์และสถานที่ต่าง ๆ ไว้ให้คนรุ่นหลังได้ดู ก่อนที่ตัวเองจะคล้ายใบไม้ร่วงหล่นลงสู่พื้นนั้นน่าจะดีกว่าการอยู่ต่อไปโดยไม่ทำอะไรเลย วันนี้ขอนำภาพเก็บตกที่พระธาตุแม่ยิ่งมาฝากอีกดังต่อไปนี้...

 







กดชัตเตอร์จนเมื่อยนิ้ว เลยต้องมานั่งพักที่เก้าอี้ใต้เงาไม้ซะหน่อย...


มองออกไปรอบตัว เห็นท้องทุ่งเขียวขจี...






ห้องน้ำ (6) อยู่ห่างออกไป



เลี้ยวซ้ายไปยังทางออก (4) อีกด้านหนึ่งได้...



"วัดแม่ยิ่ง" อยู่ห่างจากตรงนี้แค่ครึ่งกิโลเมตร...เพื่อน ๆ ไปด้วยกันนะครับ!

วันจันทร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2559

พระธาตุป๋อมป๋อ ดอยแล

ในวันที่กลับมาจากพิธีสืบชะตาแม่น้ำที่บ้านวอแก้ว อาจารย์สุภาพ ต๊ะใจได้มอบหนังสือ "ที่ระลึกงานทอดกฐินสามัคคีวัดพระธาตุดอยแล" ให้ไว้หนึ่งเล่ม ท่านแนะนำให้ผมอ่านประวัติความเป็นมา ก่อนไปเยี่ยมชมวัดพระธาตุป๋อมป๋อดอยแล...


หน้า ๔-๕ มีข้อมูลที่น่าสนใจอยู่ในหนังสือรับรองการสร้าง / บูรณปฏิสังขรณ์พระธาตุเจดีย์ดังนี้...
วัดพระธาตุป๋อมแป๋ดอยแลอยู่ในสังกัดวัดวอแก้ว ตั้งอยู่ ณ หมู่บ้าน ๓ บ้านวอแก้ว อำเภอห้างฉํตร จังหวัดลำปาง มีเนื้อที่ดินตั้งวัดรวม ๒๕ ไร่ ๓ งาน ๒๙ ตารางวา โดยเป็นที่ธรณีสงฆ์จำนวน ๕ แปลง ซึ่งได้สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนางเจ้าจามะเทวีบรมกษัตริย์แห่งนครหริภุญชัย เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมพระเจ้าอนันตยศ พระราชบุตรองค์รอง ณ นครเขลางค์ โดยได้อาราธนาอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุส่วนหัวเข่าไปด้วย เมื่อผ่านขุนเขาภูดอยจนถึงบ้านบก พระนางทรงพบว่ามีพระอรหันต์จำพรรษาอยู่ ๑ รูป ยังความปลาบปลื้มเป็นอย่างยิ่ง จึงได้หยุดพักขบวนและค้างแรมตลอดจนทำภารกิจส่วนพระองค์ อาทิ ได้สั่งให้ทหารขุดบ่อน้ำขึ้น ๑ บ่อ เพื่อสรงน้ำ
กาลนั้นพระนางได้คิดถึงคุณพระอรหันต์และพระพุทธศาสนา จึงได้สร้างวัดขึ้นเพื่อชุมชนและความเจริญรุ่งเรืองของศาสนาในภายภาคหน้า ทรงตั้งนามว่า วัดบ้านบก (ในปัจจุบันเหลือเพียงซากเนินดินและแนวกำแพงอิฐ/ดิน) พระนางยังคงมีพระราชประสงค์จะสร้างที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุหัวเข่า พระอรหันต์จึงแนะให้สร้างพระธาตุบนดอยซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกของวัดบ้านบก ซึ่ง ณ จุดนี้สามารถแลเห็นได้ไกลตลอดจากอำเภอห้างฉํตรถึงเขตอำเภอเมือง อันเป็นมหามงคลที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง พระนางจึงสั่งให้เสนาอำมาตย์สร้างวอ (เสลี่ยง) ประดับประดาด้วยแก้วและทองคำอันวิจิตรงดงามขึ้นหลังหนึ่ง เพื่อใช้หามพระอรหันต์ไปยังดอยแห่งนี้
เมื่อถึงแล้ว พระนางและพระอรหันต์ได้ทำพิธีสร้างพระธาตุเจดีย์ พร้อมทั้งบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ เมื่อสร้างเสร็จพระนางเจ้าจามเทวีทรงแลไปทางวัดพระธาตุลำปางหลวงอันเป็นที่พำนักเจ้าอนันตยศ ขณะนั้นมีพ่อลัวะก้อน ชาวชนบท ได้เดินทางผ่านมาพร้อมกับกระบอกไม้ป้าง (ป๋อมป๋อ) ซึ่งเป็นไม้ข้าวหลามสำหรับใส่น้ำผึ้งและผลไม้ตามฤดูกาลโดยใช้กิ่งไม้ขะจาวเป็นคันหาบ จึงให้ร่วมเดินทางไปด้วย เพื่อนำสัมภาระสิ่งของไปถวายเจ้าอนันตยศ พระบรมธาตุแห่งนี้จึงมีนามว่า พระธาตุป๋อมแป๋ดอยแล มาจนบัดนี้ ส่วนชื่อหมู่บ้าน วอแก้ว มาจาก เสลี่ยงคำ (วอประดับด้วยแก้วทองคำ) ที่พระนางทรงรับสั่งให้สร้างเพื่อหามพระอรหันต์
ปัจจุบันพระธาตุป๋อมแป๋ดอยแลมีอายุราว ๑,๕๑๕ ปี สภาพพระธาตุได้ชำรุดผุพังเกิดรอยร้าวไปตามกาลเวลา จึงได้รับอนุญาตให้ดำเนินการก่อสร้างบูรณปฏิสังขรณ์ในลักษณะครอบทั้งองค์ ตามแบบศิลปะพระธาตุลำปางหลวง ตำบลเกาะคา จังหวัดลำปาง มีขนาดกว้าง ๖ เมตร สูง ๑๓ เมตร...
หน้า ๑๑ มีแผนที่แนวเส้นทางเดินติดต่อกันระหว่างหริภุญชัย - เขลางค์นคร ในยุคพระนางเจ้าจามเทวีประกอบด้วย...


เมื่อเร็ว ๆ นี้ผมมีโอกาสไปวัดพระธาตุป๋อมแป๋ดอยแล จากวัดวอแก้ว (1) ขับรถไปอีกประมาณ ๒ กิโลเมตร เห็นบันไดนาคสูงชันของวัดพระธาตุฯ (2) อยู่ทางด้านซ้ายมือ...


ขอนำภาพมาฝากเพื่อน ๆ ดังนี้...


บันไดนาค ๕ เศียรสร้างโดยช่างฝีมือดี...



เหนื่อยหน่อยนะครับ สำหรับการเดินขึ้นไปจนถึงข้างบนโน่น...



จากข้างบนสามารถมองเห็นวิวสวยเบื้องล่างได้...



วิหารไม้หลังย่อม (3) อยู่ในลักษณะเปิด...



ประดิษฐานพระพุทธรูปหลายองค์...




ด้านข้างมีศาลาพระฤาษีตั้งอยู่ด้วย ๑ หลัง....


พระธาตุเจดีย์อยู่หลังวิหาร....












วันไหนมีโอกาส ผมจะต้องไป "วัดบ้านบก" ให้ได้ครับ!