พร้อมกับถุงน้ำแข็งแขวนแฮนด์รถ ผมปั่นจักรยานจากวัดเวียงทอง (W1) ตามเส้นทางลูกรังขรุขระ... สู่วัดพระธาตุม่อนตุ๊ป่า (W2)
ทางขึ้นเขา (uphill) เล็กน้อย ความยากลำบากมิได้อยู่ที่ความสูงชัน แต่เป็นพื้นถนนซึ่งลื่นไหล ล้อจักรยานต้องขับเคลื่อนไปข้างหน้าแบบขี่ไปบนพื้นทราย แถมมีก้อนหินคอยให้สะดุด รถเฉออกนอกทาง!!
ความจริงก็ไม่ไกลนะ! ทั้งหมดรวมแล้วไม่ถึง 2 กิโลเมตร ผมเห็นเสาไฟตั้งอยู่ทางด้านขวามือเป็นระยะ ๆ (ทราบภายหลังทราบว่ามีศรัทธาผู้ใจบุญมาติดตั้งไฟส่องสว่างด้วยระบบโซล่าเซลล์ให้)
สหัสเดชทะยานขึ้นเขาอย่างไม่ย่อท้อ...ผมมองเห็นจุดหมายอยู่ข้างหน้าแล้ว
นาฬิกาบอกเวลา 18.15 น. ท้องฟ้ายังสว่างไสว ขณะที่หัวใจผมเต้นแรงด้วยความเหน็ดเหนื่อย...
ด้วยปิติ...ผมจูงรถขึ้นไปจอดข้าง ๆ เจ้าแม่กวนอิม แล้วเดินขึ้นไปพบเจ้าอาวาสที่กุฏิข้างบน ขออนุญาตค้างคืนที่วัดนี้
พระอาจารย์ผู้ใจดี กรุณาอนุญาตให้ผมตั้งเต็นท์นอนในศาลาใหญ่ข้างหางบันไดนาคได้ ท่านชี้ให้เห็นห้องน้ำ สวิชที่จะปิดเปิดไฟส่องสว่าง และยังมอบนม น้ำดื่ม กับขนมไว้ให้ผมกินแก้หิวด้วย
พระอาจารย์ถามว่านอนกุฏิมั้ย?
หรือว่านอนศาลาหลังใหญ่ที่อยู่ตรงกลางก็ได้
แต่ผมอยากตั้งเต็นท์นอนในศาลาที่เห็นมากกว่า...
ยื่นบัตรประชาชนและบัตรอุทิศร่างกายให้ท่านถ่ายภาพไว้ด้วย...
ตาแก่บ้านห้างฉัตรนอนหลับสบายทั้งคืน!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น