๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๓... ตื่นขึ้นมาพบว่าประตูวัดเปิดแล้ว (พระออกไปบิณฑบาต) ผมรีบปัดกวาดเก็บที่นอน ปิดพัดลมก่อนเพื่อกันลืม...
ห้องน้ำห้องท่า (7) ก็ต้องเดินหา...พบว่าอยู่ไกลหน่อย
เช้าวันใหม่สดใสด้วยกาแฟผง Super ชงกับน้ำเย็นธรรมดา
ดื่มกินกับกล้วยตากที่เตรียมมา ตามด้วยขนมปังโฮลวีทอีก ๒ แผ่น
แค่นั้นก็แน่นท้องแล้ว!
กวาดพื้นอีกทีแล้วมัดของติดรถ วัดนี้มีภิกษุจำพรรษาแค่ ๒ องค์ ตุ๊ลุงอายุมากกว่าใบหน้าอิ่มบุญเดินมาหาตาแก่เมืองรถม้าแต่เช้า เป็นโอกาสที่จะขอทำบุญช่วยค่าน้ำค่าไฟ (เพราะรู้ดีว่าเมื่อคืนเปิดพัดลมแล้วยังชาร์จแบตฯ ทั้งมือถือและกล้องถ่ายรูป) ท่านบอกว่าได้เลย (ได้ก่า) ผมรู้สึกดีใจ...ทำบุญไป ๑๐๐ หลวงลุงเดินกลับไปที่กุฏิแล้วมาใหม่ คราวนี้หิ้วของมาด้วยถุงใหญ่ ข้างในบรรจุน้ำส้ม นมแลคตาซอย บะหมี่สำเร็จรูปและขนมเป็นถุง ๆ แถมด้วยยาหอม ยาแก้ไข้ ยาแก้ไอ...
ตุ๊ลุงจากไปแล้ว ผมพร้อมที่จะเดินทางต่อ (hit the road) กำลังจะขยับ...ท่านกลับมาอีก ถามว่า "จะไปละกา? รอกำได้ก่อ? ตุ๊หลวงไปบิณฑบาต กำเดี๋ยวปิ๊ก จะปั๋นของหื้อไปกิ๋นตวยตาง" สักพักท่านเจ้าอาวาสก็กลับมา ท่านเป็นผู้พิการ ชาวบ้านรวบรวมเงินกัน ๒ หมื่นกว่าบาทซื้อรถวีลแชร์แบบมีมอเตอร์ไฟฟ้าให้ใช้ไปบิณฑบาต...
ไม่นานตุ๊ลุงก็กลับมาพร้อมกับถุงใส่ข้าวนึ่ง หมู+ไก่ปิ้ง และขนมชั้น! ผมรับไว้แล้วแขวนกับแฮนด์จักรยาน
หลวงลุงอวยพรให้ผมเดินทางด้วยความปลอดภัย... ความประทับใจเช้าวันนี้คงจดจำไปจนวันตาย!
ล้อเจ้าทัสซูเฮะเริ่มหมุนเมื่อเวลา ๑๗.๔๕ น. หนทางข้างหน้าดูราบรื่น!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น