ตำบลปากกรานอยู่ติดกับตำบลสำเภาล่ม เว็บไทยตำบลได้กล่าวถึงประวัติความเป็นมาของตำบลสำเภาล่มไว้น่าสนใจว่า...
เหตุการณ์สำคัญอันเป็นจุดกำเนิดตำนานของตำบลสำเภาล่มมีว่า เจ้าชายสายน้ำผึ้งได้มีความรักกับลูกสาวเจ้าเมืองจีน ชื่อ เจ้าแม่สร้อยดอกหมาก ซึ่งเจ้าชายพามากรุงศรีอยุธยาโดยทางเรือ เมื่อมาถึงบริเวณวัดพนัญเชิง เจ้าแม่สร้อยดอกหมากได้ทดลองใจโดยให้เจ้าชายเอาวอมารับเพื่อให้สมเกียรติและเป็นการยกย่อง แต่เจ้าชายตอบไปทำนองว่าไม่จำเป็น เพราะเดินทางมาด้วยกัน ก็ควรจะเดินทางเข้าวังพร้อมกัน และเจ้าชายเขายังไปพระองค์เดียว เมื่อได้รับคำตอบปฏิเสธ พระนางจึงเสียใจและกลั้นใจตายด้วยท่าทางที่ไว้เชิง จึงได้มีการสร้างวัดไว้เป็นอนุสรณ์ชื่อ "วัดพระนางเชิง" ปัจจุบันคือ วัดพนัญเชิง ส่วนทหารในเรือได้พร้อมใจกันเจาะเรือสำเภาเพื่อทำลายชีวิตตนเองตามเจ้านายไป และกระแสน้ำได้พัดเอาเรือสำเภาไปล่มอีกฝั่งแม่น้ำ ซึ่งเรียกกล่าวขานกันต่อมาว่า "ตำบลสำเภาล่ม"จะเห็นได้ว่าในตำบลสำเภาล่ม มีสถานที่ท่องเที่ยวบอกไว้เพียง ๒ วัดคือ 28) โบสถ์นักบุญยอเซฟ และ 29) วัดพุทไธศวรรษ์ นอกนั้นไม่มีวัดอื่น แต่ก็ไม่เป็นไรครับ เพราะผมมักจะไปนอกเหนือจากที่ระบุไว้ในแผนที่อยู่เสมอ...
วัดสำเภาล่ม หรือวัดทำใหม่ ไม่ได้อยู่ในตำบลสำเภาล่ม กลับอยู่ในตำบลปากกราน...เลขที่ ๑ หมู่ ๖ ผมมาถึงแล้ว ให้เจ้า Banian เต๊ะท่าทำหล่อกับซุ้มประตูสวยซะหน่อย
กล่าวกันว่าวัดนี้สร้างในสมัยอยุธยาตอนต้นโดยสมเด็จพระรามราชาธิราช (พ.ศ.๑๙๓๘ - ๑๙๕๒) พระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา พระราชโอรสของพระราเมศวร เดิมชื่อ "วัดทำใหม่" แล้วเปลี่ยนเป็น "วัดสำเภาล่ม" เมื่อปี ๒๔๘๓...
ยักษ์กับไม้กระบองที่นี่คงไม่ต้องไปท้าตีท้าต่อยเหมือนยักษ์วัดแจ้งกับยักษ์วัดโพธิ์...
ยามเมื่อน้ำล้นตลิ่ง แถวนี้คงจะต้องเจิ่งนอง...
มีห้องน้ำอยู่ทางโน้น...
คงไม่มีใครว่า หากจะโพสต์ให้เห็นภาพห้องน้ำที่สะอาดน่าใช้!
อย่างเนี้ย...หาไม่ได้ทั้งในอินเดียและบังกลาเทศ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น