วันเสาร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2563

แค่ ๒ กิโลเมตร แต่...


จากวัดปางฮ่าง (1) ผมปั่นจักรยานมาตามทางหลวงหมายเลข 1095  ไม่นานนักก็เห็นป้ายชี้ทางไปน้ำตกหมอกฟ้าตั้งอยู่ตรงปากทาง (2) ด้านซ้ายมือ...

 
ตัดสินใจยังไม่ไปห้วยน้ำดัง...ผมเลี้ยวซ้ายเพื่อไปยังหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ที่ ๕  คืนนี้จะได้ตั้งเต็นท์นอนที่นั่น  ระยะทางแค่ ๒ กิโลเมตร...แต่ก็สุดโหดสำหรับจักรยานพับล้อ ๒๐ นิ้วที่บรรทุกของมาเต็มที่ราวกับว่าจะเดินทางรอบโลก
 
 
จากปากทาง (S) ต้องปั่นจักรยานข้ามเขา ๑ ลูกไปยังหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ที่ ๕ (F)  

  
ดูป้ายให้ใช้เกียร์ต่ำ เพื่อน ๆ ก็คงพอจะเห็นภาพความสูงชันของถนนสายนี้...
 

เมื่อขึ้นมาถึงจุดที่ต้องหยุดพัก ผมหันไปดูถนนที่เพิ่งจูงเจ้าทัสซูเฮะขึ้นมา...

ถ้าทัสซูเฮะไม่ต้องแบกรับน้ำหนักสัมภาระ... ๒๗ สปีดก็คงพอรับไหว ผมอาจไม่ต้องลงจูง  แต่บนเส้นทางไม่ถึง ๒ กิโลเมตรวันนี้ได้ให้คำตอบแล้วว่าไม่ไหว ด้วยน้ำหนักสัมภาระที่นำมาทดสอบ ถ้าผมหยุดรถในระหว่างผลักดันให้เจ้าทัสซูเฮะขึ้นเขา ก็จะต้องบีบเบรคให้แน่นทั้งสองมือ หากว่าปล่อยมือซักข้างนึง...จักรยานก็จะถอยหลังไหลลงทันที 

ปั่นด้วยจานหน้าเล็กสุดและจานหลังใหญ่สุด ค่อย ๆ ไต่ขึ้นมาทีละน้อย เทคนิคของผมคือการนับ เช่นว่า...เท้าปั่นแต่ละรอบให้นับไปเรื่อย ๆ จาก ๑ ถึง ๒๒ หรือ ๔๔ หรือ ๘๘ แล้วหยุดพักเอาแรง จากนั้นก็ปั่นต่อ นับอีก...หยุดอีก ค่อย ๆ ขยับไปข้างหน้า (ผมใช้วิธีนี้มาตั้งแต่เมื่อ ๓๐ กว่าปีที่แล้ว ตอนปั่นจักรยาน ๓ สปีดไปสิงคโปร์)  เสียงอื้อ ๆๆๆ คือรถยนต์ที่ใช้เกียร์ต่ำกำลังเร่งเครื่องขึ้นมา 

แค่ ๒ กิโลเมตรบนถนนเส้นนี้... ให้ผมไปปั่น ๒๐ กิโลเมตรบนทางราบยังจะดีกว่า!

วันอังคารที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2563

ปั่นสบายไร้กังวล...

เพื่อน ๆ ที่รักครับ...  ผมเห็นเค้าจัดอันดับให้ไทยเป็นประเทศที่มีถนนหนทางดีที่สุดในอาเซียน เห็นด้วยหรือเปล่าครับ?
 
  
 
สำหรับผมแล้วก็ว่าน่าจะจริง มาคราวนี้ก็ได้เห็นทางหลวงหมายเลข 1095 ไปปาย-แม่ฮ่องสอน มันดีซะจนไม่อยากบ่นถึงการเบียดบังภาษีประชาชนไปซื้อเรือดำน้ำหรือเอาไปทำอย่างอื่นที่ไม่เป็นประโยชน์...
 
 
 
ตามข้างทางก็หาอาหารกินได้สบาย ไม่ต้องกลัวอด...
 
 
ขึ้นอยู่กับว่าจะแวะกินหรือไม่กินเท่านั้นแหละ สำหรับผมแล้วมีเสบียงพกมาด้วยครับ ท้องหิวเมื่อใด...เจอที่ไหนเหมาะก็แวะพัก

 
คนแม่แตงใจดี มีน้ำหม้อตั้งไว้ให้ดื่ม ไม่เหมือนพวกฝรั่งซึ่งกลัวไปเสียทุกอย่าง...ตาแก่เมืองรถม้าอย่างผมตักน้ำบวยมาดื่มได้โดยไม่่ตะขิดตะขวง
 
 
ตรงนี้มีม้าหินให้ผมได้นั่งพัก 
 
 
 
คว้าเอาข้าวหลามที่ซื้อมาจากบ้านไร่ออกมากิน...
 

เติมพลังก่อนปั่นขึ้นเขาไปอีกไกล...


ก็ยังไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนดี?  อิอิ
------------------------------------------------------------------------------------------------------

* สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาเซียน เป็นองค์การทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีประเทศสมาชิกทั้งหมด 10 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา ไทย บรูไน พม่า ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย ลาว เวียดนาม สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย  (ที่มา - วิกิพีเดีย)

พระเจดีย์วัดปางฮ่าง เชียงใหม่

เริ่มจากพระเจดีย์สีทองทรงปราสาทแบบล้านนาที่เห็นไกลสุดนั่นเลย มีซุ้มจระนำประดิษฐานพระพุทธรูป.....
 
 
 
 
ตาแก่เมืองรถม้ามิได้เดินขึ้นบันไดนาคไปดูใกล้ ๆ (อยากเก็บแรงไว้ปั่นต่อ) แค่อาศัยซูมก็ยังพอเห็น...
 
 
 
 
มาทางนี้จะดีกว่า ภายในกำแพงแก้วผมเห็น ลูกนิมิต* เรียงรายอยู่หน้าอุโบสถ...
 
 
 
 
  

 

 

 

 

 วิหาร (3) อยู่ที่นีครับ งามระยับ (glistening, glittering, shining) ทั้งช่อฟ้าใบระกาแลหน้าบัน!!




 
ประตูเปิดอยู่...ซูมเข้าไปดูได้
 
 
 
ถ่ายรูปศาลาอเนกประสงค์ไว้อีก ๑ บาน....
 
 
ออกจากวัดปางฮ่างเวลา ๑๒.๕๗ น.
 
 
 
จะไปไหนดีเอ่ย?
--------------------------------------------------------------------------------
* ลูกที่ทำมากลม ๆ ประมาณเท่าบาตรพระ มักทำด้วยหิน ใช้ฝังเป็นเครื่องหมายเขตอุโบสถ

วัดปางฮ่าง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่

ผมถึงตรงนี้แล้ว ความหวังที่จะไปปายก็ยังคงดำรงอยู่  อีก ๘๑ กิโลเมตรเอง...แม้เส้นทางจะขึ้นเขา (hilly road) สัก ๒ วันคงปั่นถึง

 
สองข้างทางเป็นป่าเขาคิดว่าน่าจะไม่มีวัดให้แวะถ่ายภาพอีก แต่ที่ไหนได้...ผมปั่นจากหมวดทางหลวงแม่แตง (M) มาแค่ ๒ กิโลเมตรกว่า ๆ ข้างหน้าก็เห็นโรงเรียน (S) และวัด (W) ตั้งอยู่...
 

โรงเรียนบ้านปางฮ่าง (S)..

 
ถัดมาเป็นวัดปางฮ่าง (W) หรือชื่อเต็ม ๆ ว่า "วัดปางฮ่างดับภัยขัยมงคล" เป็นวัดพัฒนาตัวอย่างปี ๒๕๔๔ ตั้งอยู่หมู่ ๑ ซอยปางฮ่าง ตำบลสบเปิง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่...

 
 
 
 ผ่านซุ้มประตูสวยงาม (1) เข้ามา ทางด้านซ้ายผมเห็นอาคารสำนักงานวัด...
 
 
ฝั่งตรงข้ามเห็นศาลาหลังเล็กมีหม้อน้ำ (กำเมืองฮ้องว่าน้ำหม้อ) ตั้งอยู่ ทีแรกคิดว่าเป็นน้ำดื่มสำหรับผู้มาเยือน พอดูอีก...ไม่ใช่! มีบันไดให้เทวดาขึ้นแต่ไม่มีเครื่องบูชาเป็นที่น่าสงกะสัย!  อาจเป็นหอเสื้อวัด (?)
 
 
นำจักรยานจอดพิงยางใหญ่ไว้...มิให้ล้ม 


 แล้วเดินเก็บภาพมาฝากเพื่อน ๆ ดังนี้...
 




 

พระพุทธรูปมากมายจริง...ยิ่งกว่าวัดใด!

หมวดทางหลวงแม่แตง

หมวดทางหลวงแม่แตง (2)  แขวงทางหลวงเชียงใหม่ที่ ๓ สำนักงานทางหลวงที่ ๑ ตั้งอยู่บนทางหลวงแม่แตง ทล.1095 กิโลเมตรที่ ๑๔+๕๘๔ ตอนหนองโค้ง-กิ่งคอหมา...
 
 
จากวัดปางม่วง (1) ผมปั่นจักรยานประมาณ ๑ กิโลเมตรถึง หมวดทางหลวงแม่แตง (2)
 

ก่อนออกเดินทาง...ผมค้นคว้าเส้นทางใน google maps มาแล้ว เคยตั้งใจว่าคืนแรกจะปั่นจักรยานมาอาศัยตั้งเต็นท์นอนริมอ่างเก็บน้ำที่ หมวดทางหลวงแม่แตง (2) นี่แหละ พอดีวันแรกปั่นมาไม่ถึง ต้องแวะค้างคืนที่วัดหนองบัวหลวง  วันรุ่งขึ้นเมื่อมาถึงที่นี่เวลาประมาณ ๑๑ โมงกว่า ๆ ผมทำได้แค่แวะหยุดพัก เข้าห้องน้ำ และเก็บภาพฝากเพื่อน ๆ

 

ปั่นจักรยานท่องเที่ยวทั่วไทย นอกจากค้างคืนตามศาลาริมทาง สถานีตำรวจ ใต้สะพาน หรืออาศัยนอนวัดแล้ว ยังมีจุดให้ตั้งเต็นท์นอนในอุทยานแห่งชาติ รวมทั้งในพื้นที่หมวดทางหลวงอีกด้วย ดังข่าวที่ว่า...

นายอภิสิทธิ์ พรหมเสน รองอธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่ากรมทางหลวงได้จัดเตรียมจุดให้บริการลานกางเต็นท์และลานจอดรถรวม ๔๐ แห่ง ในพื้นที่หมวดทางหลวงทั่วประเทศ จำนวน ๑๗ จังหวัด เพื่ออำนวยความสะดวกและรองรับการท่องเที่ยวของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งสามารถพักค้างคืน หรือแวะพักได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น...

ที่หมวดทางหลวงแม่แตง (2) แม้จะไม่ได้อาศัยค้างคืน แต่ก็ได้แวะมาล้างหน้าล้างตา เข้าห้องน้ำ และพักผ่อนเอาแรงก่อนปั่นขึ้นเขา ผมขอนำภาพมาให้เพื่อน ๆ ดู เผื่อว่าวันหนึ่งเพื่อน ๆ อาจได้ผ่านมาทางนี้


 
  


สำนักงานอยู่ตรงนี้ พอดีเป็นวันหยุด ไม่มีใครคอยให้ข้อมูล...

 
 มีแผนที่ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ แค่ยืนดูก็พอจะรู้คำตอบ... 

"ไปกันต่อเหอะ...ทัสซูเฮะเพื่อนยาก" 

หนทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล มันคงไม่ใช่ง่ายเช่นที่ผ่านมาแล้วล่ะ!

ถึงตรงนี้ผมก็ยังไม่รู้ว่าคืนนี้จะไปนอนที่ไหน?