วันเสาร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

สวนสาธาณะหนองบวกหาด - ดูนก

พูดเรื่องสวนสาธารณะแล้ว รอยยิ้มมักจะผุดขึ้นบนใบหน้าของผม ไม่ว่าท่องโลกไปแห่งหนใด นอกจากตลาดสดแล้ว สวนสาธารณะก็จะเป็น highlight ของผมแทบทุกครั้ง   


ที่ Pyin Oo Lwin ประเทศพม่า มีสวนรุกขชาติขนาดใหญ่ชื่อว่า Kandawgyi  ค่าผ่านประตูเข้าชมสวนคนละ ๕ เหรียญครับ...


แต่ที่ สวนสาธาณะหนองบวกหาด จังหวัดเชียงใหม่ เข้าฟรีนะครับ


หยุดแวะกินไอติมก่อนก็ได้ แต่ต้องจ่ายตังค์นะ อิอิ


จากนั้นก็ค่อยไปดูนกดูหนูกัน...


ที่เห็นคงเป็นบ่อปลาและสวนหย่อม ในบ่อผมเห็นแต่ความว่างเปล่า!


จะดูปลาก็ต้องมาทางนี้จ้า...


ดูนกก็ที่นี่เลย...








นกอะไรเอ่ย ทำประเทศพังยับเยินมา ๖ ปีแล้ว?  (คำตอบ = นกหวีด)

วันศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

Buak Hard Public Park Revisit

เขียนถึง สวนป่าทุ่งเกวียน ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านห้างฉัตรของผมประมาณ ๑๔ กิโลเมตร ผมได้โพสต์ภาพที่เก็บมาให้เพื่อนดูด้วย...



แสดงให้เห็นว่าที่สวนป่าทุ่งเกวียน ถ้ามองหาดี ๆ ก็พอจะได้เห็นทั้งสัตว์ป่าน่ารักและดอกไม้สวยงาม...

  

ในตัวเมืองเชียงใหม่ ตรงแจ่งกู่เฮือง มุมกำแพงชั้นในมีสวนสวยอยู่ ๑ แห่ง ชื่อว่า "สวนสาธารณะหนองบวกหาด" 


สวนนี้มีมานานแล้วครับ ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๐๕ สมัยผมเป็นเด็กนักเรียน มว. ก็ยังเคยแวะมาเที่ยว เรียกกันง่าย ๆ ว่า "สวนบวกหาด"...


ปัจจุบันนี้ได้รับการปรับปรุงและพัฒนาทั้งตัวสวนสาธารณะและบริเวณใกล้เคียงให้ดูงดงามอย่างที่เห็น...



วันที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๖๐ ผมมีโอกาสได้ปั่นจักรยานมาเยือนสวนบวกหาดอีกครั้ง...





จอดจักรยานไว้ที่จุดจอดจักรยาน (bicycle parking)


เว็บ chiangmainews.co.th บรรยายว่า...
“สวนสาธารณะหนองบวกหาด” เป็นสวนสาธารณะที่ขึ้นชื่อถือได้ว่าเป็น”ปอดใหญ่”ของประชาชนคนเมืองเชียงใหม่ มีพื้นที่ขนาด ๑๒ ไร่เป็นที่เดียวของเทศบาลนครเชียงใหม่ ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง อยู่ใกล้กับแจ่งกู่เฮือง ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ภายใต้การดูแลของฝ่ายสวนสาธารณะ เทศบาลนครเชียงใหม่ มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปและนักท่องเที่ยวมานานหลายปี
ตาแก่เมืองรถม้าเดินผ่านซุ้มประตูเข้าไปภายในสวน แว็บนึงที่ผุดขึ้นมาในสมองคือภาพของเด็กชายซีซ่าร์ นักเรียนที่ผมปั่นจักรยานจากบ้านทุ่งโฮเต็ลมาสอนเปียโนให้ที่บ้านหลังใหญ่อยู่ใกล้สวนบวกหาด คุณแม่ของซีซ่าร์เป็นคนเจียงใหม่ ส่วนคุณพ่อเป็น chef ใหญ่ชาวอิตาเลียน คิดว่าป่านนี้ซีซ่าร์คงเป็นหนุ่มใหญ่แล้ว!...

 

เพื่อน ๆ เข้าไปเดินดูในสวนด้วยกันนะครับ...

วันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

วัดม่อนเขาแก้ว จังหวัดลำปาง

ภูเขาลูกเล็ก ๆ ภาษาท้องถิ่นเรียกว่า “ม่อน”  วันนี้ตาแก่เมืองรถม้าอยากพาเพื่อน ๆ มาเยือนวัดม่อนเขาแก้ว...


จากทางหลวงเอเซียหมายเลข 2 (1) ต้องเข้าไปอีก ๕๕๐ เมตร ถึง “วัดม่อนเขาแก้ว”  (2)


ผมเคยมาวัดนี้เมื่อ ๑๐ ปีที่แล้ว ตอนนั้นมีเพียงพระเจดีย์ (3) และวิหาร (4)
 


ค้นเจอภาพที่ถ่ายไว้ด้วยกล้อง Olympus MJU 20 คงจะรู้สึกเสียดายถ้าไม่ได้นำมาโพสต์ให้เพื่อน ๆ ดู  จากถนนข้างล่างต้องเดินขึ้นบันไดนาคมาอีกนิดหน่อย...



ถึงข้างบนแล้ว...ก็พอได้เหงื่อครับ 



พระเจดีย์สีทองตั้งอยู่ตรงกลาง....

  

ด้านข้างมีวิหารงดงามตั้งอยู่...



เก็บภาพมาฝากเพื่อน ๆ แล้วดังนี้...



 

ที่ผ่านมามีการก่อสร้างเพิ่มเติม...

ภาพจาก facebook วัดม่อนเขาแก้ว - ขอขอบคุณ

อื่มมม...เห็นท่าจะต้องกลับไปเยือนอีกครั้งซะแล้ว!

วันพุธที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

วัดม่อนพระยาแช่ จังหวัดลำปาง

ใครมาลำปางแล้ว อยากเห็นภาพตัวเมืองจากมุมสูง รวมทั้งได้พิสูจน์พลังปีนเขาของตัวเอง ผมขอแนะนำให้ไปวัดม่อนพระยาแช่ ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาม่อนไก่เขี่ย 



จากทางหลวงสายเอเซียหมายเลข 2 (ลำปาง-งาว) เลี้ยวขวาตรงหลักกิโลเมตรที่ ๖๐๕ (1) เข้าไปอีก ๕ กิโลเมตร ก็ถึงวัดม่อนพระยาแช่ (2)  สารานุกรมเสรีวิกิพีเดียกล่าวว่า...
วัดม่อนพระยาแช่ หรือ วัดม่อนพญาแช่ เป็นวัดสำคัญตั้งอยู่เลขที่ ๒๗๙ หมู่ ๑ ตำบลพิชัย อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง ภายในวัดเป็นที่ตั้งของพระธาตุม่อนพระยาแช่ เป็นปูชนียสถานอันเก่าแก่ของจังหวัดลำปาง และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๗๘
จากตัววัดไปยังพระธาตุเจดีย์ ต้องเดินขึ้นบันไดนาคไปอีกประมาณ ๔๕๐ เมตร...







ยิ่งขึ้นสูง ก็ยิ่งเห็นทัศนียภาพเบื้องล่างชัดเจน...



ถึงแล้วครับ ตีระฆังบอกเทวดาซะหน่อย...




พระเจดีย์ตั้งอยู่ตรงกลาง...




เก็บภาพวิวเบื้องล่างมาอวด ๒-๓ บาน...




รอไว้ให้เพื่อน ๆ มาพิสูจน์ด้วยตนเองครับ!