เช้านี้ผมตื่นขึ้นมาด้วยอาการปวดเมื่อยทั้งตัว หลังจากไปทดสอบตัวเองและจักรยานบนเส้นทางโหดไปอ่างเก็บน้ำแม่ป๋อน
สรุปแล้วคิดว่าร่างกายของตาแก่บ้านห้างฉัตรนั้นเสื่อมถอยลงมาก อาการเวียนศีรษะมักจะเกิดขณะอยู่บ้าน แต่ก็น่าแปลกที่พอออกไปปั่นจักรยานไม่ว่าใกล้หรือไกล ความรู้สึกว่าโลกโคลงเคลงกลับหายไป? เป็นที่มั่นใจว่าเมื่อเวลาแห่งการเดินทางสู่ฉากสุดท้ายในชีวิตมาถึง อาการต่าง ๆ ไม่น่าจะเป็นอุปสรรคขัดขวางการเดินทางที่ไม่มึจุดวกกลับของผม...
สำหรับสหัสเดชนั้น สมรรถภาพจัดว่าดีเยี่ยม ด้วยน้ำหนักเบาและโครงสร้างที่ดี อุปกรณ์ที่ใช้แม้ว่าจะมิใช่ระดับสุดยอด แต่ผมก็เลือกใช้ให้เหมาะสมกับการเดินทางอันยาวนานและค่อนข้างลำบาก เท่าที่ผ่านมาเจ้ายักษ์ขาวทำงานได้ราบรื่น (มีเพียงอย่างเดียวที่จะต้องเปลี่ยนก่อนการเดินทางไกลคือ ชุดจานหน้า (crankset) ซึ่งยังคงทำงานไม่สมบูรณ์นัก)...
วันนี้แทนที่จะได้หยุดพักผ่อนสบาย ๆ ผมกับสหายสหัสเดชกลับต้องเข้าเมืองอีก เราเดินทางไปกลับประมาณ 32 กิโลเมตรใช้เวลา 2 ชั่วโมง...
จากนั้นก็ใช้เวลาขากลับ ปั่นเที่ยวเลียบทางรถไฟ จากธนาคารผมปั่นไปสะพานเฉลิมพระเกียรติ (3) ข้ามแม่น้ำวัง...
หยุดถ่ายรูปสะพานดำไว้หน่อย...
ผ่านชุมชนบ้านสบตุ๋ยแล้วเลี้ยวขวา
ขี่จักรยานแบบสบาย ๆ ไปเรื่อย ๆ จนถึงถนนเลียบทางรถไฟ ถนนบ้านทับหมาก-บ้านป่ายะ (4) ตาแก่บ้านห้างฉัตรเลี้ยวซ้ายแล้วปั่นชื่นชมกับบรรยากาศสองข้างทาง...
เห็นรางรถไฟอยู่ซ้ายมือ...
เจอร้าน 7-11 เปิดใหม่ ผมแวะถ่ายรูปเอาไว้ลง Google Maps
แวะไปถ่ายรูปโบสถ์วัดบ่อแฮ้วซึ่งเคยมาเมื่อ 7 ปีที่แล้ว..
เห็นบ้านดอกไม้งาม ตลาดสดบ้านบ่อแฮ้ว...ถ่ายรูปไว้หน่อย ต่อไปคงไม่ได้มาเห็น?
เลี้ยวซ้ายผ่านทางข้ามรถไฟ (railway crossing) ก่อนเลี้ยวขวามุ่งหน้าไปห้างฉัตร...
ผมปั่นมาจนถึงถนนซึ่งเพิ่งสร้างเสร็จ เป็นถนนขนานกับทางรถไฟเช่นกัน นับเป็นโอกาสดีที่ให้สหัสเดชได้ลองวิ่งประเดิม...
เส้นจราจรยังใหม่ซิง ๆ อยู่เลย!!
รู้สึกปลงในชีวิต... ผมปั่นจักรยานจนถึงเนินสุดท้ายก่อนถึงสี่แยกห้างฉัตร มองลงไปเห็นป้ายเส้นทางที่เพิ่งติดตั้งใหม่...
ได้เวลาเตรียมอาหารให้ตัวเองและอู่หลงพอดี!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น