วันพฤหัสบดีที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

วัดบุปผาวนาราม บ้านลาดวารี


ปั่นจักรยานจาก “วัดขันธรารามบ้านวังเต่า” ตามทางหลวงหมายเลข 16W ระยะทางประมาณ ๖ กิโลเมตรถึงบ้านลาดวารี ผมเห็นป้าย "วัดบุปผาวนาราม" ตั้งอยู่ริมทางด้านขวามือ...


เลี้ยวขวาหยุดถ่ายภาพป้ายชื่อวัดไว้ก่อนตอนเที่ยงตรง แล้วค่อยปั่นเข้าไปตามทางที่เห็นข้างหน้า ผมเห็นซุ้มประตูวัดตั้งอยู่ไกล ๆ


ลุยเข้ามาจนถึง...




เข้ามาในวัดแล้วหันกลับไปเก็บภาพซุ้มประตูอีกบาน...


รั้วยังสร้างได้เฉพาะด้านหน้าที่อยู่กับซุ้มประตู ส่วนด้านข้างยังต้องรอต่อไป...


จอดจักรยานไว้ใต้ต้นไม้...



สถูปเจดีย์บรรจุอัฐิชาวบ้านตั้งเรียงรายอยู่ริมรั้ว...


เก็บภาพวิหารมาฝากเพื่อน ๆ










ศาลาหลังเล็กนี้ไม่รู้ว่าเป็นอะไร?


แต่ที่แน่ ๆ นั่นคือกุฏิสงฆ์...


เก็บภาพห้องน้ำไว้อีก ๑ บาน หอที่ตั้งอยู่ข้าง ๆ ทีแรกนึกว่าหอระฆัง ที่แท้เป็นแท้งค์น้ำ!


ผมดีใจที่ลุยเข้ามาเก็บภาพจนถึงข้างในนี้ ใน google maps ก็ยังไม่มีครับ...

วันพุธที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

วัดขันธรารามบ้านวังเต่า


๑๐.๔๐ น. จากช่องเม็ก (1) ผมปั่นจักรยานประมาณ ๕ กิโลเมตรไปตามทางหลวงหมายเลข 16W เห็นซุ้มประตูวัดตั้งอยู่ทางด้านซ้ายมือ (3)


หยุดแล้วพาเจ้า Banian ข้ามถนนไปยังซุ้มประตูทางเข้าวัด (3)


รู้สึกตื่นเต้นเพราะเป็นวัดแรกที่ได้พบเห็นในลาวใต้...


พยายามอ่านชื่อวัดแล้วสะกดเป็นภาษาไทยว่า "วัดขันธรารามบ้านวังเต่า" (หากผิดก็ต้องขออภัย)


ขี่จักรยานไปตามทางเล็ก ๆ สู่วิหารที่อยู่ข้างหน้า...



๑๑.๓๒ น. จอดรถไว้หน้าวิหาร...




ปลดเป้วางไว้แล้วนั่งพักรอให้เหงื่อแห้ง...


พระภิกษุกำลังฉันเพล...


ผมนั่งอยู่ไม่นาน พระก็ฉันเสร็จ ก่อนกลับกุฏิครูบาเดินมาบอกให้ผมกินข้าว ผมเห็นเด็กน้อยกับแม่กำลังกินอาหารต่อจากพระ มีหมาและแมวนั่งรออยู่ รู้สึกว่าเป็นเช่นนี้หลายวัด คือถ้ามาช่วงเพลก็ไม่ต้องกลัวว่าจะอดข้าว...


พระจากไปแล้วผมก็เดินเก็บภาพมาฝากเพื่อน ๆ









เดินออกไปเก็บภาพต้นโพธิ์...




มีวิหารหลังเล็กประดิษฐานพระพุทธรูปอยู่ริมถนนทางเข้า....



ตรงข้ามกันคงกำลังก่อสร้างสิมหลังใหม่...


ออกเดินทางต่อ...ผมปั่นจักรยานออกจากวัด สุนัขเขี้ยวโค้งตัวหนึ่งวิ่งออกมายืนเห่า


ไม่กลัวครับ ผมรู้ว่าหมาเห่าไม่กัด!