เคยปรากฏข่าวว่าสำนักศิลปากร ๗ จากจังหวัดน่านได้นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ “รอยพระพุทธบาท” แล้วแจ้งว่าเป็นบริโภคเจดีย์* มีรอยพระบาทคู่ คล้ายกับที่พบในจังหวัดปราจีนบุรี แกะสลักลงบนพื้นศิลาแลง ลักษณะครบสมบูรณ์ทั้งนิ้วพระบาท ข้อพระบาท และส้นพระบาท วัดแล้วพระบาทยาว ๒.๔ เมตร นิ้วพระบาทกว้าง ๑.๑๐ เมตร ส้นพระบาท กว้าง ๗๒ ซม. มีการแกะสลักเป็นรูปก้นหอยไว้ที่นิ้วพระบาท ส่วนที่สามารถบ่งบอกได้ว่าเป็นรอยพระพุทธบาทคือ ส่วนตรงกลางพระบาทที่มีการแกะสลักเป็นรูปพระธรรมจักร มีความเก่าแก่มาก แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเกิดขึ้นในสมัยใด อาจจะอยู่ระหว่างสมัยเจ้าแม่จามเทวีคือสมัยทวารวดีก็ได้ พระรัตนกิจ อภิปุณโณได้เล่าว่าก่อนหน้านี้ได้เข้ามาจำพรรษา ณ วัดร้างแห่งนี้แต่เพียงลำพัง ขณะนอนหลับได้ฝันเห็นจอมปลวกและได้ใช้มือกวาดไปบนใบไม้ที่ทับถมอยู่บนพื้น พบเข้ากับส่วนหัวแม่เท้าหนึ่งข้างแล้วสะดุ้งตื่น พอได้ไปเดินสำรวจโดยรอบ ก็พบจอมปลวกเหมือนในฝัน ลองเขี่ยใบไม้ที่ปิดอยู่ก็พบรอยพระพุทธบาททั้งสองจริง นอกจากนั้นยังพบถ้ำ ๑ แห่ง สามารถลอดผ่านไปมาได้ มีความยาวประมาณ ๑๕ เมตร
* พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช ป.ธ.๙ ราชบัณฑิต) ได้อธิบายความหมายคำว่า "บริโภคเจดีย์" ว่าหมายถึง สถานที่หรือสิ่งของที่พระพุทธเจ้าเคยประทับหรือทรงใช้สอย จัดเป็นพุทธเจดีย์ ๑ ใน ๔ อย่าง
วัดถ้ำขุมทรัพย์อยู่ไม่ไกลบ้านผม เราไปดูด้วยกันนะครับ...
จากปากทางเข้าไปอีกไม่ไกล ก็พบพระฤาษีนั่งยิ้มอยู่ทางด้านซ้าย...
มีศาลาเจ้าแม่กวนอิมด้วย...
และที่บอกว่าเป็นถ้ำก็น่าจะเป็นตรงนี้...
พื้นข้างบนมีศาลามุงคา ก่ออิฐไว้เป็นเขตขัณฑ์...
พระพุทธรูป ๒ องค์เป็นประธาน...
ด้านหน้าองค์พระ มีรอยพระพุทธบาทดังกล่าว...
หอพระประจำวันเกิด (ศาลาชินเวทเมตตา) สร้างเมื่อวันที่ ๑ กันยายน ๒๕๕๖...
กำลังสร้างศาลาวัดถ้ำขุมทรัพย์...
กำลังเจริญขึ้นตามลำดับ อีกไม่นานก็มีวิหารอย่างที่เห็นในภาพ...
วัดนี้ทันสมัย มี facebook ซึ่งอัพเดทอยู่เสมอ...
