วันอังคารที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2568

FB Trip 2 – 96.5 กิโลเมตรสู่นครเชียงใหม่

ที่สถานีรถไฟห้างฉัตรใช้เวลาจอดไม่ถึงนาที พอผู้โดยสารซึ่งมีอยู่คนเดียวหิ้วกระเป๋าสีดำใบใหญ่ขึ้นรถได้ รถดีเซลรางขบวน 407 ก็เคลื่อนตัวต่อไป… 

 

บนขบวนรถไฟคนจนมีที่นั่งว่างเหลือเฟือ ผมวางกระเป๋าเจ้า Coyote ไว้ใกล้ประตู  ยึดเอาม้านั่งยาวเป็นที่เหยียดกาย….

ออกจากสถานีห้างฉัตร เจ้าม้าเหล็กควบไปได้อีก ๖ กิโลเมตรก็ถึงสถานีปางม่วง…

เห็นใบไม้แห้งร่วงหล่นที่ห้วยเรียน…

พอถึงสถานีแม่ตานน้อย ผมคาดว่าอีกไม่นานรถคงจะเข้าถ้ำ…

แน่ใจยิ่งขึ้น…เมื่อเห็นหลอดไฟเหนือหัวเปิดสว่าง!

แล้วรถก็วิ่งเข้าอุโมงค์ขุนตานซึ่งมีความยาว ๑,๓๕๒.๑๐ เมตร  ผมคิดถึงตอนเป็นเด็ก ถ้าได้นั่งรถไฟลอดถ้ำขุนตานทีไรเป็นต้องตื่นเต้นทุกที เคยคิดว่าท่ามกลางความมืดอาจจะมีใบหน้าของปีศาจโผล่ออกมาให้เห็น  แต่มาถึงวันนี้ ผมไม่รู้สึกใด ๆ เลย!

รถจอดที่สถานีขุนตาน  มีแม่ค้าขึ้นมาขายของบนรถ  ผมซื้อแตงโมกิน  (๒๐ บาท มี ๓ ชื้น)

 
เก็บภาพข้างทางมาฝากเพือน ๆ ด้วย…

พอรถออกจากสถานี “สารภี” ผมก็รู้ว่าสถานีปลายทางรออยู่ข้างหน้าแล้ว…

บนเส้นทาง ๙ กิโลเมตร…เจ้าม้าเหล็กเร่งฝีจักรเร็วขึ้นกว่าเดิม เปรียบเหมือนอาชาที่ควบผ่านโค้งสุดท้ายมาแล้ว…กำลังวิ่งเข้าเส้นชัย ผมเห็นแหม่มผอมกับแหม่มตุ้ยนุ้ยซึ่งนั่งอยู่ไม่ไกลขยับตัวเตรียมลง  อืมมมม์…เป็นนักเดินทางที่ศีกษาเส้นทางมาเป็นอย่างดี  ต่างกับลุงน้ำชาผู้ไม่ค่อยใส่ใจในข้อมูลสักเท่าใด ในใจได้แต่คิดว่า “ถึงก็ช่าง ไม่ถึงก็ช่าง”

ลงจากรถแล้ว ผมนำกระเป๋าใส่จักรยานไปวางไว้ข้างม้าหิน…

หันกลับไปบันทึกภาพชีวิตของนักเดินทางตัวจริงไว้อีกบาน…

ยังไม่อยากนำเจ้า Coyote ออกมาตอนนี้  ผมยกสายกระเป๋าขึ้นพาดบ่า กระชับเจ้า Coyote ให้อยู่แนบกายก่อนที่จะก้าวเดินตามผู้โดยสารอื่น ๆ ออกไป!

ในที่สุด ผมก็ได้ไปยืนอยู่หน้าสถานีรถไฟเชียงใหม่….


ได้พาเจ้า Coyote นั่งรถไฟ ๙๖.๕ กิโลเมตรมาถึงนครเชียงใหม่แล้ว!

Travellin’ light ไปพม่า – เตรียมเอกสารขอวีซ่า

กำหนดออกเดินทางออกจากบ้านวันพรุ่งนี้…ผมต้องจัดเตรียมเอกสารเพื่อยื่นขอวีซ่าไว้ให้ครบ จะได้ไม่ยุ่งยาก! 

ก่อนอื่นต้องไปถ่ายรูปก่อน เรื่องรูปเนี่ย ทางสถานทูตกำหนดไว้ว่า “2 passport-sized color photos”  นั่นหมายถึง ภาพถ่ายขนาด 2″ x 2″ หรือ 51 x 51 mm จำได้ว่าขอวีซ่าไปพม่าครั้งก่อน ผมถ่ายรูปขนาด ๑ นิ้วไป เจ้าหน้าที่ใจดีก็ไม่เห็นว่าอะไร  ทางที่ดีควรเตรียมรูปตามขนาดที่เค้ากำหนดไว้ จะได้ไม่มีปัญหาภายหลัง

ได้รูปแล้ว ผมก็ไปร้านถ่ายเอกสาร ซึ่งอยู่เลยธนาคารทหารไทยไปหน่อย…

เจ้าของร้านถ่ายเอกสารใจดีให้ผมได้ดาวน์โหลดแบบฟอร์มขอวีซ่าจากอินเทอร์เน็ต ปีนี้มีการอัพเดทใหม่ (ขอขอบคุณที่มาของ application forms ซึ่งขอนำมาเก็บไว้ให้เพื่อน ๆ ได้ดาวน์โหลดแล้ว ที่นี่ )  ต้องใช้ ๒ แผ่นดังนี้…

พิมพ์แบบฟอร์มออกมาแล้วถ่ายเอกสารสำรองไว้อีก ๑ ชุด ถ่ายสำเนาหนังสือเดินทางไว้ ๔ แผ่น ทางร้านคิดผมแค่ ๑๐ บาทเอง…

ตอนนี้เอกสารพร้อมหมดแล้ว ถึงกระนั้นผมก็ยังไม่มั่นใจว่าจะได้ travel light ไปพม่า! 

วันจันทร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2568

คิดถึงเมืองสิง

ากาศหนาวเย็นทำให้ผมคิดถึงทริป "ฝ่าลมหนาวแอ่วลาวเหนือ - สถานีขนส่งเมืองสิง"

 

วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี กล่าวว่า....
เมืองสิงห์ เป็นเมืองที่มีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวไทลื้อ เพราะอยู่ใกล้สิบสองปันนาในมณฑลยูนนาน ประเทศจีน ชาวไทลื้ออาศัยในพื้นที่ลุ่ม ส่วนบนเขตภูเขาเป็นที่อยู่ของชาวม้ง ชาวเย้า เมืองนี้อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองหลวงน้ำทาประมาณ 60 กิโลเมตร และทางตะวันตกเฉียงเหนือของเวียงจันทน์ 360 กิโลเมตร
7 โมงเช้าวันที่ 27 ธันวาคม 2556 ผมกำลังจะเดินไปสถานีขนส่งเมืองสิงเพื่อกลับหลวงน้ำทา ถ่ายรูปเฮือนพักไว้หน่อย...
 

 
เป็นช่วงหน้าหนาวพอดี เพื่อน ๆ จะเห็นหมอกที่ตกปกคลุมทั้งเมือง อากาศก็หนาวพอ ๆ กันกับวันนี้ที่เมืองไทยในปี 2568 นี่แหละ.... แต่ไม่รู้ทำไม ?? ตาแก่เมืองรถม้าถึงได้ไม่ทุกข์กับความหนาวเย็นเอาเสียเลย... เดินแบกเป้ (เจ้าแรด) มาถึงสถานีขนส่งอย่างมีความสุข  
 
 
ค่าโดยสารรถตู้ เมืองสิง-หลวงน้ำทา 30,000 กีบ (ประมาณ 60 บาท) ระยะทาง 50 กิโลเมตร...
 
 
เจ้าแรด (backpack) นั่งรออยู่บนเก้าอี้สถานีขนส่งเมืองสิง

 
เห็นผู้คนยืนผิงไฟ ต่อสู้กับความหนาว

ลาก่อน "เมืองสิง" ที่รัก...

คิดว่าวันนี้เมืองสิงคงจะหนาวกว่าที่ผมได้เห็นเมื่อ 11 ปีที่แล้ว...

วันพุธที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2568

วิหารพระนอน วัดพระนอนหนองผึ้ง จ.เชียงใหม่

 
วิหารพระนอน (5) วัดพระนอนหนองผึ้ง ตั้งอยู่ใกล้กับวิหารหลวง (6) และพระเจดีย์ (4) ประดิษฐานพระนอนยาว 38 ศอก...
 
 
วิหาร (5) มีมุขยื่นออกไปทางด้านทิศเหนือ...




เก็บภาพมาฝากเพื่อน ๆ แล้วดังนี้...
 
 
 
 
 

 
 
 
 

 
 





 



 
 

 



 




ด้วยความจำกัดของเลนส์กล้องถ่ายรูป ผมไม่สามารถเก็บภาพพระนอนเต็ม ๆ องค์มาให้เพื่อนได้ดู