วันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2567

วัดแม่หยวก ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่

วัดแม่หยวก ตั้งอยู่ในตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่...
 
 
จากสวนล้านนา ร.9 (G) ผมปั่นจักรยานขึ้นเหนือตามถนนโชตนา (เชียงใหม่-แม่ริม) ประมาณ 2 กิโลเมตรเห็นป้าย "วัดแม่หยวก" ตั้งอยู่ตรงปากซอยด้านขวามือ (T) ริมรั้วองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่
 

เลี้ยวเข้าซอย (R) ไปอีกนิดเดียวก็เห็นป้ายวัดแม่หยวก (B) ตั้งอยู่...
 

 
ขี่จักรยานตรงไปที่ประตูรั้ววัด (W) ซึ่งมีสิงห์นั่งอยู่บนหัวเสา (1)...
 
 
สุนัขตัวใหญ่พุ่งเข้ามาเห่ากระโชกโฮกฮากแยกเขี้ยวขู่ จนผมต้องถอยห่างจากรั้วเหล็ก...
 
 
อ่อ...นั่นไง ป้ายบอกเตือนไว้ชัดเจน!! 
 
 
 
เป็นช่วงเวลาปล่อยสุนัขก็เ่ลยอดเข้าเยี่ยมชม...ผมได้แต่เพียงยกกล้องขึ้นถ่ายรูปพระเจดีย์ (2) และวิหาร (3) มาให้เพื่อน ๆ ดู
 

 
 
 

 
 
 
ที่แม่หยวกนี่แหละ เมื่อ 50 กว่าปีที่แล้วเคยมาดูที่ดินซึ่งมีผู้บอกขายในราคาเป็นหมื่น...ผมแต่ไม่ได้ซื้อไว้!

ศาลเจ้าปุงเถ้ากง จ.เชียงใหม่

 
าลเจ้าปุงเถ้ากง เป็นวัดจีนที่เก่าแก่ที่สุดของจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งอยู่เลขที่ 45 ถนนไปรษณีย์ ตำบลช้างม่อย อำเภอเมือง...
 

ปั่นจักรยานจากเชิงสะพานนครพิงค์ มาตามถนนไปรษณีย์เลียบลำน้ำปิง เห็นวัดจีนมีซุ้มประตูสวยงามตั้งอยู่ทางด้านขวามือ...
 

 
 
 
 
 
ตาแก่เมืองรถม้าจอดจักรยานไว้ริมทางแล้วเดินเข้าไปเก็บภาพฝากเพื่อน ๆ ทันที...
 

 
มีป้ายบอกประวัติศาลเจ้าฯ ตั้งอยู่ ผมพิมพ์ด้วยตนเองให้เพื่อน ๆ อ่านด้วยดังนี้...
 
 ประวัติศาลเจ้าปุงเถ่ากง เชียงใหม่
ศาลเจ้าปุงเถ่ากง เชียงใหม่ เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ที่สุดในจังหวัดเชียงใหม่ สร้างขึ้นจากแรงศรัทธาของเหล่าบรรพชนชาวจีนโพ้นทะเล มีสถาปัตยกรรมเป็นศิลปะจีนโบราณ โดยอาคารหลังเดิมสร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) และได้พบตัวเลข 2419 สลักอยู่บนไม้อกไก่ของหลังคา ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นปีที่ก่อสร้าง เนื่องจากอาคารหลังเดิมมีสภาพหลังคาเตี้ย คับแคบ ชำรุดทรุดโทรมมาก และคณะกรรมการและสมาชิกจึงดำริที่จะให้มีการก่อสร้างอาคารหลังใหม่ขึ้นทดแทนอาคารหลังเก่าที่เสื่อมโทรมจนยากที่่จะบูรณะได้
ดังนั้นในปี พ.ศ.2539 ตรงกับปีกาญจนภิเษกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ 9) ทรงครองราชย์ครบรอบ 50 พรรษา ตรงกับวาระสมโภช 700 ปี นพบุรีศรีนครพิงค์ เชียงใหม่ จึงได้มีการวางศิลาฤกษ์ และได้ดำเนินการก่อสร้างอาคารศาลเจ้าหลังใหม่จนเสร็จสมบูรณ์ในปี พ.ศ. 2451 ซึ่งขณะนั้นมี นางสาวสมจิตร บูรณุปกรณ์ เป็นประธานชมรมศาลเจ้าฯ และได้จัดงานฉลองสมโภชอาคารศาลเจ้าหลังใหม่ ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2542 มีการทำพิธีทางศาสนาเบิกเนตร (ไคกวง) และอัญเชิญเจ้าสู่ที่ประทับ (เซ่งเต่ย) ตามประเพณี
ในสมัยต่อมา นายวิบูลย์ โตวิวัฒน์ ได้รับเลือกเป็นประธานชมรมศาลเจ้าฯ ได้เล็งเห็นว่ามีอาคารตึกแถว 2 ห้องบดบังหน้าสาลเจ้า หากมีการรื้อถอนออกไป ด้านหน้าจะเปิดโล่งสู่แม่น้ำปิง ทำให้ทัศนียภาพของศาลเจ้ามีความสง่างาม เป็นมิ่งขวัญคู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่สืบต่อไป จึงได้มีการประชุมปรึกษาหารือคณะกรรมการ ซึ่งมีมติเห็นชอบด้วยและได้ขอความร่วมมือจากผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคเงินเพื่อซื้อที่ดังดังรายนามที่จารึกไว้
 

 

 
 

 

ด้านในของศาลนอกจากเทพเจ้าปุนเถ่ากง-ม่า (เจ้าปู่ เจ้าย่า) ยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่น ได้แก่ ทีตี่แป่ป้อ (เทพยดาฟ้าดิน) กวนอิมเนี่ยเนี้ย (เจ้าแม่กวนอิม) ไช้ซิ้งเหล่าเอี้ย (เทพเจ้าโชคลาภ) ฮั้วท้อเซียนซือ (เทพเจ้าโอสถ) เฮี้ยงเทียนเซียงตี่ หรือตั้วเล่าเอี้ย (เจ้าพ่อเสือ) เล้งซิ้ง (เจ้ามังกร) โฮ้วเอี้ย (เจ้าพยัคฆ์)  ตี่จู้ (เจ้าที่) และหมึงซิ้ง (เจ้ารักษาประตู)


เก็บภาพด้านนอกมาฝากเพื่อน ๆ แล้วดังนี้...





ปิดท้ายด้วยรูปสวยอีกหนึ่งบาน...


เยือนวัดไทยมานาน เปลี่ยนมาวัดจีนบ้างก็ดีเหมือนกัน!

วันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2567

อุโบสถวัดหม้อคำตวง จ.เชียงใหม่

อุโสถวัดหม้อคำตวง (6) หลังย่อม ตั้งอยู่ข้างพระเจดีย์ (8)...


สร้างบนพื้นที่จำกัด ด้านหลังของโบสถ์อยู่ติดกับกำแพงรั้ว ทำให้ต้องหันหน้าไปทางทิศตะวันตก...

บันไดมกรคายนาคนำทางขึ้นสู่มุขหน้า...


 

สวยงามด้วยช่อฟ้าใบระกาและหางหงส์ หน้าบันประดับลวดลายพรรณพฤกษาสีทอง...

  

 หลังคาลดชั้น 2 ระดับ

 ด้านข้างมี 3 หน้าต่าง...งดงามยิ่งนัก! มีตาข่ายกันนกด้วย

ด้านหลังผนังทึบเรียบง่าย...



มองหาใบเสมาไม่เจอ!! ใครเห็นช่วยบอกหน่อย...

วิหารวัดหม้อคำตวง จ.เชียงใหม่

ดือนตุลาคม 2567 วิหารวัดหม้อคำตวง (7) กำลังอยู่ในระหว่างการบูรณะฯ ผมมองเห็นได้แต่ไกล..

ตาแก่เมืองรถม้าเดินเข้าใกล้ เพื่อเก็บภาพมาฝากเพื่อน ๆ

 
 
 

 
 
วิหารวัดหม้อคำตวง (7) รูปแบบสถาปัตยกรรมล้านนา หลังคาลดชั้น 2 ระดับ หน้าบันประดับลวดลายพรรณพฤกษาสีทอง...



 
 
สล่าหรือนายช่างกำลังทำงานง่วน ไม่สนใจตาแก่ผู้มาเยือน
 
 
 

 
 
 
 
 
 
ถือโอกาสเก็บภาพประตูใหญ่ไว้ก่อน


แอบย่องเข้าไปภายในวิหารทางประตูข้างซึ่งเปิดอยู่ เห็นพระประธานพระพุทธรูปปางมารวิชัยงดงามยิ่ง



 



Under renovation...การบูรณะปฏิสังขรณ์วิหารคงต้องใช้เวลาอีกไม่น้อย